Page 34 - บูรพศิลปิน58

Basic HTML Version

19
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
ปี
พระพุ
ทธศั
กราช ๒๓๖๓ วั
นพฤหั
ส เดื
อนอ้
าย ขึ้
น ๙ คํ่
า ปี
มะโรง ในสมั
ยรั
ชกาลที่
๒ ได้
รั
บพระราชทานเลื่
อน
สมณศั
กดิ์
เป็
นพระราชาคณะผู้
ใหญ่
ที่
พระเทพโมลี
พระคณาจารย์
เอก ฝ่
ายคั
นถธุ
ระ เมื่
ออายุ
ได้
๗๓ ปี
มี
ราชทิ
นนาม
ปรากฏดั
งนี้
...พระเทพโมลี
ศรี
ปิ
ฏกธรา มหาคณฤศร บวรสั
งฆารามคามวาสี
สถิ
ต ณ วั
ดราชสิ
ทธาวาส พระอาราม
หลวง รั
บพระราชทานนิ
ตยภั
ต ๔ ตำ
�ลึ
ง มี
ถานานุ
ศั
กดิ์
ควรตั้
ง ถานานุ
กรมได้
๔ รู
ป มี
พระครู
ปลั
ด ๑ พระครู
สมุ
ห์
พระครู
ใบฏี
กา ๑ พระครู
สั
งฆวิ
ชิ
ต ๑”
พุ
ทธศั
กราช ๒๓๖๘ ต่
อปี
พุ
ทธศั
กราช ๒๓๖๙ เมื่
อพระเทพโมลี
(กลิ่
น) หายจากโรคาพาธ ได้
รั
บโปรดเกล้
าฯ
แต่
งตั้
งให้
เป็
นเจ้
าอาวาสวั
ดราชสิ
ทธาราม ครองวั
ดประมาณ ๑ ปี
ก็
มรณภาพในปลายปี
นั้
นด้
วยโรคชรา สิ
ริ
อายุ
๘๖ ปี
ผลงานสำ
�คั
ร่
ายยาวมหาเวสสั
นดรชาดก กั
ณฑ์
มหาพน ได้
รั
บการยกย่
องว่
าดี
ในเชิ
งพรรณนา ไพเราะลึ
กซึ้
แต่
งประมาณ พ.ศ. ๒๓๕๐ ในคราวที่
พระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธยอดฟ้
าจุ
ฬาโลกมหาราชทรงบำ
�เพ็
ญพระราชกุ
ศลเทศน์
มหาชาติ
“กั
ณฑ์
มหาพน พระมหากลิ่
น เปรี
ยญเอก วั
ดราชสิ
ทธาราม สำ
�แดง”
ท่
านเป็
น ผู้
แต่
งเอง จารเอง และสำ
�แดง
เอง ต่
อมาได้
ปรั
บปรุ
งแก้
ไขเรื่
อยมาตามคำ
�ติ
ชมของเจ้
ากรมสั
งฆการี
ซึ่
งเป็
นมหาเปรี
ยญเก่
า ถึ
ง ๗ ฉบั
สมเด็
จพระมหาสมณเจ้
า กรมพระปรมานุ
ชิ
ตชิ
โนรส ซึ่
งเป็
นกวี
เอกของกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
ทรงพระนิ
พนธ์
มหาชาติ
ไว้
ถึ
ง ๑๐ กั
ณฑ์
แต่
ไม่
ทรงแต่
งอยู่
๓ กั
ณฑ์
คื
อ มั
ทรี
ชู
ชก มหาพน ส่
วนไม่
ทรงแต่
งกั
ณฑ์
มหาพนนั้
น รั
บสั่
งว่
ถึ
งจะแต่
งก็
สู้
ของพระเทพโมลี
(กลิ่
น) ไม่
ได้
เพราะของพระเทพโมลี
(กลิ่
น) มี
ลั
กษณะดี
พร้
อมทั้
งเนื้
อความ ทั้
งคำ
� ทั้
เชิ
งกวี
ทั้
งความรู้
ในด้
านค้
นคว้
ปั
จจุ
บั
นต้
นฉบั
บแก้
ไขปรั
บปรุ
งที่
พระเทพโมลี
(กลิ่
น) แต่
งเอง จารเอง บางส่
วนเก็
บรั
กษาอยู่
ที่
พิ
พิ
ธภั
ณฑ์
พระกรรมฐาน คณะ ๕ วั
ดราชสิ
ทธาราม
คั
มภี
ร์
โยชนามู
ลกั
จจายน์
แต่
ง พ.ศ. ๒๓๕๑
มหาชาติ
คำ
�หลวง ทานกั
ณฑ์
แต่
ง พ.ศ. ๒๓๕๘
นิ
ราศตลาดเกรี
ยบ (ส.พลายน้
อย วิ
เคราะห์
ต่
อมาว่
า เมื่
ออ่
านนิ
ราศตลาดเกรี
ยบตลอดแล้
วเป็
นสำ
�นวน
ฆราวาสแต่
งมากกว่
าจะเป็
นพระสงฆ์
แต่
ง จึ
งไม่
น่
าจะเป็
นพระเทพโมลี
(กลิ่
น) เป็
นผู้
แต่
ง)
โคลงกระทู้
เบ็
ดเตล็
โคลงฤๅษี
ดั
ดตน, โคลงบาทกุ
ญชร, โคลงกลบท
เมื่
อครั้
งพระบาทสมเด็
จพระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว รั
ชกาลที่
๓ โปรดให้
ปฏิ
สั
งขรณ์
วั
ดพระเชตุ
พนฯ และให้
รวบรวม
ตำ
�รั
บตำ
�ราของนั
กปราชญ์
ราชบั
ณฑิ
ต ทั้
งฝ่
ายสงฆ์
ฝ่
ายฆราวาส และโปรดเกล้
าฯ ให้
ประชุ
มกั
นแต่
ง โคลง ฉั
นท์
กาพย์
กลอน จารึ
กไว้
ที่
วั
ดพระเชตุ
พนฯ ในครั้
งนั้
นได้
ทรงนำ
�เอากวี
นิ
พนธ์
ที่
พระเทพโมลี
(กลิ่
น) แต่
ง ได้
แก่
โคลงฤๅษี
ดั
ดตน
โคลงบาทกุ
ญชร โคลงกลบท ที่
ท่
านแต่
งจารึ
กไว้
ด้
วย
โคลงลวงผึ้
มงคลที
ปนี
(ระบุ
ไว้
ในใบแจ้
งความต้
นหนั
งสื
อว่
“อนึ่
ง หนั
งสื
อนี้
พระสงฆ์
ผู้
ซึ่
งแปลนั้
นหลายองค์
ความรู้
แลโวหารต่
างๆ กั
น คื
อ เล่
มที่
๑,๒,๓,๔,๕ พระเทพโมลี
วั
ดราชสิ
ทธาราม ได้
แปลรวม ๕ เล่
ม”
)
ได้
รั
บการยกย่
องเชิ
ดชู
เกี
ยรติ
เป็
บู
รพศิ
ลปิ
สาขาวรรณศิ
ลป์
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๘