Page 331 - บูรพศิลปิน58

Basic HTML Version

316
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
นายมงคล อมาตยกุ
เกิ
๙ กุ
มภาพั
นธ์
พ.ศ. ๒๔๖๑ ที่
กรุ
งเทพมหานคร
ถึ
งแก่
กรรม
๒๐ กั
นยายน พ.ศ. ๒๕๓๒
ยุ
คสมั
รั
ตนโกสิ
นทร์
(รั
ชกาลที่
๖ - รั
ชกาลที่
๙)
ประวั
ติ
และการทำ
�งาน
นายมงคล อมาตยกุ
ล เป็
นบุ
ตรของอำ
�มาตย์
เอก พระยาวิ
นิ
จวิ
ทยาการ
(กร อมาตยกุ
ล) และหม่
อมหลวงผาด (เสนี
วงศ์
) อมาตยกุ
ล บิ
ดาเป็
นอาจารย์
สั
งกั
กระทรวงธรรมการ ต่
อมาเป็
นเสนาบดี
กระทรวงธรรมการ ในสมั
ยรั
ชกาลที่
การศึ
กษา เริ่
มเรี
ยนชั้
นประถมและมั
ธยมต้
นที่
โรงเรี
ยนวั
ดชนะสงคราม
เรี
ยนมั
ธยมปี
ที่
๓ - ๔ ที่
โรงเรี
ยนหอวั
ง มั
ธยมปี
ที่
๕ - ๖ ที่
โรงเรี
ยนปทุ
มคงคา
แล้
วจบชั้
นมั
ธยมปี
ที่
๘ ที่
โรงเรี
ยนสวนกุ
หลาบวิ
ทยาลั
ย และเข้
าเรี
ยนต่
อที
คณะ
สั
ตวแพทย์
จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย จนถึ
งชั้
นปี
ที่
๔ ระหว่
างนั้
นเกิ
ดสงคราม
มหาเอเชี
ยบู
รพา มหาวิ
ทยาลั
ยต้
องปิ
ดไปชั่
วคราว เมื่
อมหาวิ
ทยาลั
ยเปิ
ดสอนแล้
ก็
กลั
บมาเรี
ยนอี
ก แต่
ก็
เรี
ยนไม่
เต็
มที่
เพราะหว่
างนั้
นได้
เล่
นดนตรี
ตอนกลางคื
จึ
งลาออกจากมหาวิ
ทยาลั
การศึ
กษาทางดนตรี
เริ่
มเรี
ยนโน้
ตสากลที่
โรงเรี
ยนปทุ
มคงคา มี
อาจารย์
สั
งข์
เป็
นผู้
สอน เรี
ยนแตรวงกั
ครู
สะอาด ที่
โรงเรี
ยนสวนกุ
หลาบวิ
ทยาลั
ยและเรี
ยนไวโอลิ
นกั
บอาจารย์
บุ
ญส่
ง ต่
อมาได้
เรี
ยนปิ
อาโนกั
บอาจารย์
เดย์
เก้
ชาวเดนมาร์
ก และพร้
อมกั
บเรี
ยนดนตรี
คลาสสิ
กไปด้
วย แต่
ช่
วงนั
นเป็
นช่
วงที่
ดนตรี
ป๊
อบได้
เข้
ามาแพร่
หลายใน
ประเทศไทย ครั้
นมาเรี
ยนที่
จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย นายมงคล อมาตยกุ
ล ได้
รวมกลุ่
มกั
บพวกเพื่
อนๆ ที่
มี
ใจรั
กการ
ดนตรี
ตั้
งวงขึ้
นเพื่
อเล่
นตามงานต่
างๆ ของมหาวิ
ทยาลั
ช่
วงสงคราม นายมงคลได้
ไปทำ
�งานที่
จั
งหวั
ดนครสวรรค์
สั
งกั
ดกรมทางหลวง เมื่
อกลั
บกรุ
งเทพฯ หลั
ง พ.ศ.
๒๔๘๕ ได้
ทำ
�งานที
เทศบาล แผนกแบบแผน ได้
พบกั
บครู
ดนตรี
ที่
เคยสอนอยู่
โรงเรี
ยนสวนกุ
หลาบวิ
ทยาลั
ย จึ
งได้
ย้
ายโอน
มาอยู่
ประจำ
�วงดนตรี
ในฐานะนั
กแต่
งเพลงและเรี
ยบเรี
ยงเสี
ยงประสาน และได้
เป็
นหั
วหน้
าวงดนตรี
อยู่
ได้
ระยะหนึ่
ง จึ
เข้
ามาอยู
วงดุ
ริ
ยางค์
กองทั
พบก ระหว่
างนั้
นได้
เป็
นอาจารย์
พิ
เศษสอนหนั
งสื
อที่
โรงเรี
ยนสตรี
ทั
ดสิ
งหเสนี
และอำ
�นวยศิ
ลป์
ธนบุ
รี
อยู่
ที่
วงดุ
ริ
ยางค์
กองทั
พบกประมาณ ๓ - ๔ ปี
ได้
ลาออก ขณะนั้
นมี
บริ
ษั
ทแผ่
นเสี
ยงได้
เกิ
ดขึ้
นมากมาย จึ
งรวมกลุ่
กั
บ ป.ชื่
นประโยชน์
เนี
ยน วิ
ชิ
ตนั
นท์
ไพบู
ลย์
บุ
ตรขั
น และร้
อยแก้
ว รั
กไทย ร่
วมกั
นแต่
งคำ
�ร้
อง ทำ
�นอง และเรี
ยบเรี
ยง
เสี
ยงประสาน โดยทำ
�กั
นในลั
กษณะของการแลกเปลี่
ยนกั
น เพลงที่
ได้
รั
บความนิ
ยมเพลงแรกคื
อ ช่
างร้
ายเหลื
ขั
บร้
องโดย วงศ์
จั
นทร์
ไพโรจน์
เพลงค่
อนคื
นยั
งคอย และได้
ทำ
�เพลงภาพยนตร์
เรื่
องปรารถนาแห่
งหั
วใจ หลั
งจากนั้
นได้
เข้
าทำ
�งานที่
ห้
าง ดี
.คู
เปอร์
จอห์
นสั
น ทำ
�หน้
าที่
ควบคุ
มพั
สดุ
และต่
อมาเป็
นหั
วหน้
าควบคุ
มห้
องบั
นทึ
กเสี
ยง
พ.ศ. ๒๕๐๐ ตั้
งวงดนตรี
จุ
ฬารั
ตน์
ขึ้
นรั
บแสดงทั่
วไปและเดิ
นสายทั่
วประเทศ วงดนตรี
นี้
ได้
สร้
างนั
กร้
อง
และนั
กแต่
งเพลงประดั
บวงการไว้
มากมาย อาทิ
ทู
ล ทองใจ ปอง ปรี
ดา พร ภิ
รมย์
พนม นพพร ประจวบ จำ
�ปาทอง
สั
งข์
ทอง สี
ใส สรวง สั
นติ
เรณู
เบญจพรรณ ลพ บุ
รี
รั
ตน์
ฯลฯ
๔๕
สมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์