293
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
นายทองมาก จั
นทะลื
อ
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาศิ
ลปะการแสดง (หมอลำ
�)
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๒๙
เกิ
ด
๖ กุ
มภาพั
นธ์
พ.ศ. ๒๔๖๗ ที่
จั
งหวั
ดขอนแก่
น
(ตามบั
ตรประชาชน เกิ
ดเมื่
อ พ.ศ. ๒๔๗๒)
ถึ
งแก่
กรรม
๑๗ มี
นาคม ๒๕๕๔
ยุ
คสมั
ย
รั
ตนโกสิ
นทร์
(รั
ชกาลที่
๖ - รั
ชกาลที่
๙)
ประวั
ติ
และการทำ
�งาน
นายทองมาก จั
นทะลื
อ เป็
นบุ
ตรของนายสอน และนางสมบู
รณ์
อาชี
พ
ทำ
�นา ทำ
�สวน เมื่
อเข้
าศึ
กษาในโรงเรี
ยน จั
ดว่
ามี
สติ
ปั
ญญาดี
เยี่
ยม
เมื่
ออายุ
๑๔ ปี
บิ
ดาได้
พาไปสมั
ครเรี
ยนหมอลำ
�กั
บพระรู
ปหนึ่
ง นามว่
า
พระอาจารย์
อ่
อน ที่
วั
ดประดู่
น้
อย ได้
เรี
ยนรู้
ทั้
งกลอนลำ
� และพระธรรมคำ
�สอนทาง
พระพุ
ทธศาสนาอั
นเป็
นพื้
นฐานสำ
�คั
ญที่
หมอลำ
�จะต้
องเรี
ยนรู้
เรี
ยนอยู่
เป็
นเวลา
๒ ปี
จึ
งลาไปศึ
กษาหาความรู้
เพิ่
มเติ
มกั
บครู
หมอลำ
�อื่
นๆ อี
กหลายท่
าน อาทิ
หมอลำ
�คำ
�อ้
าย อาจารย์
คำ
�ผาย โยมา
ที่
สอนให้
รู้
จั
กการวาดลำ
� (คื
อจั
งหวะในการรำ
�และฟ้
อน) และแตกฉานในกลอนลำ
� และท่
านอื่
นๆ ซึ่
งอาจารย์
แต่
ละท่
าน
ล้
วนมี
ความชำ
�นาญในด้
านต่
างๆ เกี่
ยวกั
บหมอลำ
�ที่
แตกต่
างกั
น ทำ
�ให้
นายทองมากได้
มี
โอกาสเรี
ยนรู้
ศาสตร์
ของหมอลำ
�
อย่
างกว้
างขวางจนแตกฉาน
พ.ศ. ๒๔๙๑ ได้
แสดงหมอลำ
�ครั้
งแรกและได้
รั
บความนิ
ยมอย่
างต่
อเนื่
อง มี
ชื่
อเสี
ยงโด่
งดั
งเป็
นที่
รู้
จั
กกั
นทั่
วไป
พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้
รั
บรางวั
ลชนะเลิ
ศหมอลำ
�กลอนชาย ช่
วงนี้
ไปรั
บการแสดงมากมาย
นายทองมาก จั
นทะลื
อ ถึ
งแก่
กรรมด้
วยโรคชรา เมื่
อวั
นที่
๑๗ มี
นาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ สิ
ริ
อายุ
๘๗ ปี
(ตามอายุ
ที่
เกิ
ด พ.ศ. ๒๔๖๗ หากนั
บตามบั
ตรประชาชน จะมี
อายุ
๘๒ ปี
)
ผลงานสำ
�คั
ญ
ได้
ขออนุ
ญาตจั
ดตั้
งโรงเรี
ยนหมอลำ
�ชื่
อ
“ศิ
ลปศึ
กษา”
จั
งหวั
ดอุ
บลราชธานี
ได้
รั
บการยกย่
องในเรื่
องกลอนลำ
� ท่
าทางลี
ลา การร่
ายรำ
� การยั
กคิ
้
วหลิ่
วตา ตั้
งเกณฑ์
หมอลำ
�ที่
ดี
คื
อ
๑) มี
ความรู้
ทั้
งทางโลก ทางธรรม ๒) เสี
ยงดั
งมี
เสน่
ห์
รู
ปร่
างหน้
าตาดี
๓) มี
ลี
ลาบทบาท มารยาทอ่
อนโยน
เป็
นผู้
ที่
มี
ความสามารถด้
านกลอน จนได้
รางวั
ลชนะเลิ
ศ ได้
ประกาศนี
ยบั
ตรหมอลำ
�ชั้
นพิ
เศษ ๔ ดาว
เป็
นผู้
ถ่
ายทอดวิ
ชาความรู้
ด้
านหมอลำ
�ให้
แก่
อนุ
ชนรุ่
นหลั
ง และเป็
นวิ
ทยากร สอนหมอลำ
�หญิ
ง ๓๐๐ คน
ชาย ๓๕๐ คน พ.ศ. ๒๕๑๑ ด้
วยความที่
มี
คนรู้
จั
กทั่
วไปจึ
งได้
รั
บเลื
อกเป็
น ส.ส.จั
งหวั
ดอุ
บลราชธานี
ชนะการประกวดหมอลำ
�หลายครั้
ง เมื่
อ พ.ศ. ๒๕๐๐, ๒๕๐๒, ๒๕๑๐, ๒๕๑๑ และ พ.ศ. ๒๕๑๒
ได้
ก่
อตั้
งสหพั
นธ์
“สหพั
นธ์
หมอลำ
�แห่
งประเทศไทย”
และได้
รั
บเลื
อกให้
ดำ
�รงตำ
�แหน่
งนายกสหพั
นธ์
เป็
น
คนแรก เมื่
อ พ.ศ. ๒๕๑๔
เป็
นโฆษกจั
ดรายการ
๓๓
สมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์