Page 280 - บูรพศิลปิน58

Basic HTML Version

265
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
นายจำ
�เนี
ยร ศรี
ไทยพั
นธุ์
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาศิ
ลปะการแสดง (ดนตรี
ไทย)
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๓๖
เกิ
๒๑ ตุ
ลาคม พ.ศ. ๒๔๖๓ ที่
จั
งหวั
ดนครปฐม
ถึ
งแก่
กรรม
๒๗ มิ
ถุ
นายน พ.ศ. ๒๕๔๐
ยุ
คสมั
รั
ตนโกสิ
นทร์
(รั
ชกาลที่
๖ - รั
ชกาลที่
๙)
ประวั
ติ
และการทำ
�งาน
นายจำ
�เนี
ยร ศรี
ไทยพั
นธุ์
เป็
นบุ
ตรของนายนาค และนางเปลี่
ยน
ศรี
ไทยพั
นธุ์
เรี
ยนจบชั้
นประถมปี
ที่
๔ โรงเรี
ยนดอนหวาย จั
งหวั
ดนครปฐม
ตอนอายุ
ได้
๙ ขวบ สมั
ครฝึ
กหั
ดดนตรี
กั
บวงปี่
พาทย์
ของญาติ
ไม่
นานก็
ออกงานได้
อาศั
ยว่
ามี
ความพยายามและมี
ปฏิ
ภาณทางด้
านดนตรี
จึ
งสามารถเล่
นดนตรี
ได้
หลายอย่
างทั้
งที่
ไม่
มี
ครู
สอน ต่
อมาเพื่
อนของบิ
ดาพาไปฝากเรี
ยนกั
บครู
หรั่
ที่
ประตู
นํ้
าภาษี
เจริ
ญ จึ
งมี
โอกาสเรี
ยนปี่
และขั
บร้
องเพลง และได้
รู้
จั
กนั
กดนตรี
ร่
วมสำ
�นั
กอี
กมากมาย เช่
น นายบุ
ญยงค์
เกตุ
คง นายบุ
ญยั
ง เกตุ
คง นายสมาน ทองสุ
โชติ
นายจำ
�เนี
ยร อยู่
กั
บครู
หรั่
งได้
๒ ปี
อายุ
ครบบวชก็
กลั
บมาบวชที่
บ้
าน
เมื่
อสึ
กแล้
วช่
วยบิ
ดามารดาทำ
�นาและแต่
งงานมี
ครอบครั
ว เล่
นดนตรี
ไทยไปด้
วย จนกระทั
งอายุ
๓๓ ปี
นายสมาน
ทองสุ
โชติ
มี
จดหมายมาชวนทำ
�งานที่
กรมประชาสั
มพั
นธ์
ได้
มี
โอกาสร่
วมมื
อกั
บนั
กดนตรี
มี
ความสามารถหลายท่
าน
จึ
งมี
โอกาสแสดงความสามารถได้
อย่
างเต็
มที่
ทั้
งดนตรี
แต่
งเพลง ได้
เรี
ยนดนตรี
เพิ่
มเติ
มจากครู
หลายท่
าน เมื่
อว่
างเว้
จากราชการก็
ไปแสดงประจำ
�กั
บละครคณะพลายมงคล ออกอากาศทางโทรทั
ศน์
ช่
อง ๔ บางขุ
นพรหม และสถานี
วิ
ทยุ
อยู่
เป็
นประจำ
� จนเกษี
ยณอายุ
ราชการที่
กรมประชาสั
มพั
นธ์
แต่
ก็
ยั
งเล่
นดนตรี
อยู่
เสมอ เช่
น เป็
นนั
กดนตรี
วงฟองนํ้
วงกั
งสดาล ไปเผยแพร่
ศิ
ลปะดนตรี
ไทยยั
งต่
างประเทศอยู่
เสมอ ในขณะเดี
ยวกั
นได้
อุ
ทิ
ศเวลาว่
างให้
กั
บการอบรมถ่
ายทอด
วิ
ชาดนตรี
แก่
คนรุ่
นหลั
งอี
กด้
วย
นายจำ
�เนี
ยร ศรี
ไทยพั
นธุ์
มี
ความสามารถเล่
นดนตรี
ได้
ทุ
กชนิ
ด เช่
น เครื่
องเป่
า เครื่
องสาย เครื่
องตี
เครื่
องหนั
และร้
องเพลงไทย แต่
ความชำ
�นาญจริ
งๆ ของท่
านคื
อ เล่
นเครื่
องเป่
า และการร้
องเพลงไทย เครื่
องเป่
าก็
คื
อปี่
และขลุ่
ด้
วยความสามารถและความมี
ปฏิ
ภาณ บางครั้
งเล่
นโดยไม่
ต้
องเตรี
ยมตั
วและไม่
ต้
องมี
โน้
ต นอกจากนี
ยั
งมี
ความสามารถ
ในการแต่
งเพลง แต่
งโดยไม่
ได้
เรี
ยนกั
บครู
ท่
านใดโดยตรงมาเลย เช่
น เพลงประเภทโหมโรง เช่
น โหมโรงศิ
ษยานุ
ศิ
ษย์
โหมโรงฝรั่
งจรกา โหมโรงกั
งสดาล ฯลฯ เพลงที่
แต่
งทำ
�นองเพลง บทร้
องและทำ
�นองร้
อง เช่
น ลาวดำ
�เนิ
นทรายเถา
เทพสร้
อยสนเถา ฯลฯ เพลงที่
แต่
งบทร้
องและทำ
�นอง เช่
น เทพชาตรี
เถา, กราวแขกเงาะเถา นาคนิ
มิ
ตเถา ฯลฯ เพลง
ที่
แต่
งทำ
�นองร้
อง เช่
น ม้
าย่
องเถา ตามกวางเถา ทะแยเถา ฯลฯ บทร้
องพิ
เศษ มี
ลำ
�ตั
ด ลาวแพน บทขั
บเสภาขุ
นช้
าง
ขุ
นแผน บทร้
อง เช่
น เพลงช่
อลู
กหว้
าและพระยาสมุ
ทร
นายจำ
�เนี
ยร ศรี
ไทยพั
นธุ์
ได้
รั
บเข็
มที่
ระลึ
ก เหรี
ยญที่
ระลึ
ก โล่
รางวั
ล เป็
นเกี
ยรติ
ประวั
ติ
ดั
งนี้
รางวั
ลพระราชทานจากพระบาทสมเด็
จพระปรมิ
นทรมหาภู
มิ
พลอดุ
ลยเดช ได้
แก่
เข็
มที่
ระลึ
กคราวแสดง
ดนตรี
ณ สถานี
วิ
ทยุ
อ.ส. พระราชวั
งดุ
สิ
ต เหรี
ยญที่
ระลึ
กของสมาคมสภายุ
ทธวิ
ทยานายทหาร กรมการ
รั
กษาดิ
นแดน ในฐานะกรรมการตั
ดสิ
นการประกวดวงดนตรี
เพลงลู
กทุ่
งแห่
งประเทศไทย
๑๙
สมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์