Page 278 - บูรพศิลปิน58

Basic HTML Version

263
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
นายจวงจั
นทร์
จั
นทร์
คณา (พรานบู
รพ์
)
เกิ
๒๙ มี
นาคม พ.ศ. ๒๔๔๔ ที่
จั
งหวั
ดเพชรบุ
รี
ถึ
งแก่
กรรม
๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๙
ยุ
คสมั
รั
ตนโกสิ
นทร์
(รั
ชกาลที่
๕ - รั
ชกาลที่
๙)
ประวั
ติ
และการทำ
�งาน
นายจวงจั
นทร์
จั
นทร์
คณา เป็
นบุ
ตรของหลวงราชสมบั
ติ
(จั
นทร์
) และ
นางสร้
อย จั
นทร์
คณา เนื่
องจากบิ
ดาเป็
นข้
าราชการฝ่
ายปกครองซึ่
งต้
องโยกย้
ายไป
รั
บราชการตามจั
งหวั
ดต่
างๆ ขณะมี
อายุ
เข้
าเกณฑ์
ศึ
กษาได้
บิ
ดาได้
ย้
ายมาที่
จั
งหวั
ราชบุ
รี
จึ
งได้
เข้
าเรี
ยนที่
โรงเรี
ยนวั
ดสั
ตตนารถปริ
วั
ตร จั
งหวั
ดราชบุ
รี
เรี
ยนอยู่
ได้
ไม่
นานบิ
ดาถึ
งแก่
กรรม มารดาได้
พาไปอยู่
ที่
จั
งหวั
ดสุ
ราษฎร์
ธานี
ซึ่
งเป็
นบ้
านเดิ
และเปิ
ดโรงเรี
ยนขึ้
น นายจวงจั
นทร์
ได้
เรี
ยนหนั
งสื
อกั
บมารดาจนอายุ
๑๑ ปี
ต่
อมาได้
เข้
ามาเรี
ยนต่
อที่
โรงเรี
ยนสวนกุ
หลาบวิ
ทยาลั
ย ระหว่
างที่
เรี
ยนอยู่
ที
โรงเรี
ยนนั้
น นอกจากจะได้
รั
บเลื
อกเข้
าเล่
นฟุ
ตบอลในที
มโรงเรี
ยนแล้
ว ยั
งสามารถ
เล่
นไวโอลิ
นได้
อี
กด้
วย เมื่
อจบชั้
นมั
ธยมปี
ที่
๘ จากโรงเรี
ยนสวนกุ
หลาบวิ
ทยาลั
ยแล้
ว ได้
เข้
าศึ
กษาต่
อคณะรั
ฐศาสตร์
จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย โดยมี
ความตั้
งใจจะเป็
นนายอำ
�เภอเช่
นบิ
ดา แต่
ด้
วยเหตุ
ที่
มี
รู
ปร่
างเล็
ก จึ
งย้
ายไปเรี
ยนคณะ
วิ
ศวกรรมศาสตร์
ขณะเรี
ยนชั
นปี
ที่
๒ มารดาถึ
งแก่
กรรม ทำ
�ให้
ไม่
มี
เงิ
นทุ
นเรี
ยนต่
อไป จึ
งลาออก และไปสมั
ครเป็
ผู้
ติ
ดตามนั
กสำ
�รวจ ทำ
�ได้
ไม่
นานก็
ลาออก เพราะสนใจในด้
านการประพั
นธ์
และดนตรี
มากกว่
นายจวงจั
นทร์
จั
นทร์
คณา ได้
เข้
าสู่
วงการละคร เมื่
อ พ.ศ. ๒๔๖๕ โดยเข้
าทำ
�งานที่
บริ
ษั
ทพั
ฒนาการ แผนก
โฆษณา ต่
อมาบริ
ษั
ทได้
ตั้
งคณะละครขึ้
นอี
กแผนกหนึ่
ง ชื่
อคณะละครราตรี
พั
ฒนา จึ
งได้
เริ่
มชี
วิ
ตละครด้
วยการบอกบท
อยู่
หลั
งฉาก นายจวงจั
นทร์
บอกบทได้
อย่
างคล่
องแคล่
วเป็
นที่
พอใจของหั
วหน้
าคณะอย่
างมาก ต่
อมานายจวงจั
นทร์
ก็
ฉายแววของการเป็
นนั
กประพั
นธ์
เขี
ยนบทกวี
ในนามปากกาว่
“อำ
�แดงขำ
�”
แต่
งเรื่
องสั้
นใช้
นามปากกาว่
“ร้
อยรั
ก”
และ
“ศรี
จั
นทร์
งาม”
ในหนั
งสื
อ เนตรนารี
ต่
อมาได้
แต่
งบทละครเรื่
อง
“ทะแกล้
วสามเกลอ” เ
ป็
นที่
พอใจของพระยา
วิ
นั
ยสุ
นทรหรื
อสมิ
งนครอิ
นทร์
นั
กประพั
นธ์
ในยุ
คนั้
น จากนั้
นมานายจวงจั
นทร์
ทำ
�หน้
าที่
เขี
ยนบทละคร บอกบท และ
กำ
�กั
บการแสดงประจำ
�คณะละครราตรี
พั
ฒนา จนได้
รั
บผลสำ
�เร็
จเป็
นอย่
างดี
ต่
อมาใช้
นามปากกา
“พรานบู
รพ์
เป็
ครั้
งแรก เมื่
อเขี
ยนเรื่
อง
“เหยี่
ยวทะเล”
และใช้
นามนี้
ต่
อมาในงานประพั
นธ์
ทุ
กประเภท มี
ชื่
อเสี
ยงโด่
งดั
งในฐานะ
นั
กประพั
นธ์
ระดั
บปรมาจารย์
บทละครร้
องของพรานบู
รพ์
เป็
นที่
นิ
ยมของประชาชนอย่
างมาก จึ
งได้
ดั
ดแปลงเพลงไทยเดิ
มที่
มี
ลู
กคู่
ร้
องรำ
มาสู่
แบบสากล โดยทำ
�นองเพลงที่
ใช้
กั
บละครร้
องยุ
คนั้
น มี
ลู
กคู่
ร้
องช้
ามากจึ
งใส่
เนื้
อให้
เต็
มแทนลู
กคู่
แล้
วใช้
ดนตรี
คลอ
ทำ
�ให้
เพลงกระชั
บไพเราะ จึ
งเป็
นที่
นิ
ยมของคนดู
ต่
อเมื่
อคณะละครราตรี
พั
ฒนาระงั
บการแสดง เพราะเจ้
าของมี
ภารกิ
ทางด้
านโรงภาพยนตร์
เพิ่
มขึ้
น พรานบู
รณ์
จึ
งไปทำ
�งานหนั
งสื
อพิ
มพ์
ประจำ
�อยู่
ในกองบรรณาธิ
การ เดลิ
เมล์
รายวั
และได้
เขี
ยนเรื่
องสั้
น เรื่
องยาว และบทพากย์
การ์
ตู
น ลงในหนั
งสื
อพิ
มพ์
เดลิ
เมล์
วั
นจั
นทร์
ต่
อมาได้
จั
ดตั้
งคณะละครชื่
คณะ
“ศรี
โอภาส”
ภายหลั
งเปลี่
ยนชื่
อเป็
“จั
นทโรภาส”
ทำ
�หน้
าที่
เขี
ยนบท คำ
�ร้
อง เพลงประกอบ กำ
�กั
บการแสดง
และควบคุ
มด้
านอื่
นๆ นั
บว่
าคณะละครจั
นทโรภาสดำ
�เนิ
นการได้
ด้
วยความรู้
ความสามารถของพรานบู
รณ์
อย่
างแท้
จริ
๑๘
สมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์