259
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
นางกั
ณฑรี
ย์
(นาคประภา) สิ
มะเสถี
ยร
เกิ
ด
๑๑ สิ
งหาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ ที่
กรุ
งเทพมหานคร
ถึ
งแก่
กรรม
๔ กั
นยายน พ.ศ. ๒๕๔๔
ยุ
คสมั
ย
รั
ตนโกสิ
นทร์
(รั
ชกาลที่
๖ - รั
ชกาลที่
๙)
ประวั
ติ
และการทำ
�งาน
นางกั
ณฑรี
ย์
(นาคประภา) สิ
มะเสถี
ยร คู่
ชี
วิ
ตของนายฉลอง สิ
มะเสถี
ยร
พระเอกตลอดกาล เป็
นธิ
ดาของรองอำ
�มาตย์
โท เผิ
ญ เลื่
อนฉวี
และนางแฉล้
ม
หุ
ตะโกวิ
ท บิ
ดามารดาแยกทางกั
นตั้
งแต่
นางกั
ณฑรี
ย์
ยั
งเล็
ก มารดาจึ
งพาไปอยู่
กั
บ
คุ
ณยาย เรี
ยนหนั
งสื
อระดั
บประถมศึ
กษาที่
โรงเรี
ยนประสารอั
กษร บางรั
ก กรุ
งเทพฯ
เมื่
อ พ.ศ. ๒๔๗๒ - ๒๔๗๖ ชั้
นมั
ธยมศึ
กษาปี
ที่
๑ - ๓ ที่
โรงเรี
ยนสุ
ริ
วงศ์
กรุ
งเทพฯ
เมื่
อ พ.ศ. ๒๔๗๗ - ๒๔๗๙ ชั้
นมั
ธยมศึ
กษาปี
ที่
๕ - ๖ ที่
โรงเรี
ยนสตรี
มหาพฤฒาราม
นางกั
ณฑรี
ย์
มี
แววเป็
นนั
กร้
อง นั
กแสดงมาแต่
เยาว์
วั
ย เนื่
องจากคุ
ณยายมั
ก
พาไปชมละครคณะต่
างๆ ที่
มี
ชื่
อในขณะนั้
นเป็
นประจำ
� แม้
จะไม่
พาไปแต่
นางกั
ณฑรี
ย์
มั
กขอให้
คนรู้
จั
กพาไป จนสามารถจดจำ
�เพลง และเนื้
อร้
องในละครได้
ขณะเรี
ยนชั้
นประถมศึ
กษาก็
ได้
รั
บการคั
ดเลื
อก
ให้
ร้
องเพลงและแสดงงานของโรงเรี
ยนเสมอๆ แม้
เมื
่
อมาเรี
ยนในโรงเรี
ยนมหาพฤฒารามแล้
วก็
ยั
งเป็
นนั
กร้
องของโรงเรี
ยนด้
วย
เมื่
อจบการศึ
กษาชั้
นมั
ธยมศึ
กษาแล้
ว เข้
าทำ
�งานที่
การไฟฟ้
านครหลวงสามเสน และ ณ ที่
แห่
งนี้
ได้
มี
โอกาสฝึ
ก
ร้
องเพลงและเป็
นศิ
ษย์
ของครู
บุ
ญช่
วย กมลวาทิ
น นั
กแต่
งเพลงชื่
อดั
งในยุ
คนั้
น จนกระทั่
งครู
แต่
งเพลงให้
ร้
องเพลงแรก
ชื่
อ จั
นทร์
เอ๋
ย และได้
นำ
�ไปร้
องในงานรื่
นเริ
งของกระทรวงมหาดไทย ที่
การไฟฟ้
านครหลวงสั
งกั
ดอยู่
เมื่
อ พ.ศ. ๒๔๘๕
ได้
รั
บการปรบมื
อเกรี
ยวกราวเมื่
อเพลงจบ จากนั
้
นเป็
นต้
นมานางกั
ณฑรี
ย์
จึ
งได้
เป็
นตั
วแทนของกระทรวงมหาดไทยใน
การแสดงหรื
อร้
องเพลงทุ
กครั้
งที่
กระทรวงอื่
นเชิ
ญไปร่
วมงาน เป็
นก้
าวแรกของชี
วิ
ตนั
กร้
องอย่
างจริ
งจั
ง ต่
อมาครู
บุ
ญช่
วย
กมลวาทิ
น พาไปฝากทำ
�งานที่
แผนกดนตรี
สำ
�นั
กงานทรั
พย์
สิ
นส่
วนพระมหากษั
ตริ
ย์
และเริ่
มมี
ชื่
อเสี
ยงขึ้
น จนต้
องเปลี่
ยน
นามสกุ
ลจาก
“เลื่
อนฉวี
”
มาเป็
น
“นาคประภา”
เพราะบิ
ดาไม่
ชอบให้
เป็
นศิ
ลปิ
น จึ
งไปใช้
นามสกุ
ลของคุ
ณยายทวด
ต่
อมาลาออกจากการไฟฟ้
านครหลวง และร้
องเพลงเรื่
อยมาจนกระทั่
งวงดนตรี
ทรั
พย์
สิ
นส่
วนพระมหากษั
ตริ
ย์
ยุ
บเลิ
กไป
จึ
งเป็
นแม่
บ้
านเต็
มตั
ว
โอกาสการเป็
นนั
กแสดงมาเยื
อนอี
กครั้
งเมื่
อนางกั
ณฑรี
ย์
ไปดู
ซ้
อมละครของคณะศิ
วารมณ์
จากการชวนของ
นาวาโท ศรี
โรจน์
หงส์
ประสิ
ทธิ์
ซึ่
งมี
หน้
าที่
บอกบท ขณะที่
คณะละครกำ
�ลั
งมองหาคนรั
บบท เจ้
าแม่
อยู่
หั
วศรี
สุ
ดาจั
นทร์
นางกั
ณฑรี
ย์
นาคประภา จึ
งได้
แสดงละครเวที
เป็
นเรื่
องแรก ซึ่
งได้
รั
บการฝึ
กสอนจาก ผู้
กำ
�กั
บการแสดงมี
ชื่
อเสี
ยงในยุ
ค
นั้
นคื
อ ครู
มารุ
ต และครู
เนรมิ
ต ส่
วนการร้
องเพลงฝึ
กซ้
อมกั
บครู
สง่
า อารั
มภี
ร การแสดงละครครั้
งนี้
ประสบความสำ
�เร็
จ
สู
งสุ
ด ทำ
�ให้
นางกั
ณฑรี
ย์
นาคประภา มี
ผลงานการแสดงละครเวที
เรื่
อยมา และมี
ชื่
อเสี
ยงมาโดยลำ
�ดั
บด้
วยความสามารถ
พ.ศ. ๒๔๙๒ ลาออกจากคณะศิ
วารมณ์
มาอยู่
กั
บคณะอั
ศวิ
นการละคร รั
บบทนางเอกบ้
าง นางร้
ายบ้
าง เรื่
อง
ที่
ประสบความสำ
�เร็
จมากคื
อ บ้
านทรายทอง รั
บบท หญิ
งเล็
ก ซึ่
งละครเรื่
องนี้
ได้
นำ
�กลั
บมาแสดงอี
กหลายครั้
งและก็
ยั
ง
ได้
รั
บการตอบรั
บจากผู้
ชมทุ
กครั้
ง นางกั
ณฑรี
ย์
นาคประภา ได้
แสดงและเป็
นผู้
กำ
�กั
บ
๑๖
สมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์