Page 247 - บูรพศิลปิน58

Basic HTML Version

232
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
หลั
งสงคราม ฟิ
ล์
มขาดแคลน แต่
ก็
ยั
งทรงพยายามสร้
างเรื่
องเล็
กๆ คื
อ สุ
ภาพสตรี
โมรา ไปฉายตามหั
วเมื
อง
ต่
อจากนั้
นก็
สร้
างอี
กปี
ละ ๒ เรื่
อง เรื่
องที่
ทำ
�เงิ
นได้
มากคื
“เกาะสวาทหาดสวรรค์
พระองค์
ทรงเป็
นผู้
อยู่
เบื้
องหลั
ความสำ
�เร็
จของดารา และนั
กร้
องหลายต่
อหลายครั้
ง และที่
สำ
�คั
ญคื
อทรงถ่
ายทอดความรู้
ความสามารถด้
านการสร้
าง
- กำ
�กั
บภาพยนตร์
ให้
กั
บหม่
อมเจ้
าชาตรี
เฉลิ
ม ยุ
คล ซึ่
งทั้
งสองจะเป็
นที่
ปรึ
กษาซึ่
งกั
นและกั
นอกจากนี้
ยั
งทรงพระปรี
ชาด้
านการเขี
ยนหนั
งสื
อ ทรงเริ่
มต้
นตั้
งแต่
พระชั
นษา ๔ - ๑๕ ปี
เมื่
ออยู่
ประเทศ
อั
งกฤษเป็
นสมาชิ
กนั
กเรี
ยนรุ่
นเยาว์
ของโรงเรี
ยน เขี
ยนเรื่
องสั้
นได้
๒ เรื่
อง ได้
ลงพิ
มพ์
ในหนั
งสื
อรายปั
กษ์
ของอั
งกฤษ ได้
ค่
าเขี
ยนเรื่
องละ ๓ ปอนด์
เมื่
อเสด็
จกลั
บเมื
องไทยทรงคุ้
นเคยกั
บนั
กประพั
นธ์
หลายท่
าน เช่
น โชติ
แพร่
พั
นธ์ุ
(ยาขอบ)
ก้
าน พึ่
งบุ
ญ ณ อยุ
ธยา (ไม้
เมื
องเดิ
ม) ทรงเขี
ยนนวนิ
ยายเรื่
องแรก ชื่
“หนุ่
มห้
าวสาวหาญ”
นามปากกา
“ปรั
ศณี
ย์
เรื่
องต่
อมาคื
“ถิ่
นกาขาว”
และ
“ยาหยี
เกษมสุ
ข”
ทรงเขี
ยนสารคดี
เรื่
อง
“วั
งเจ้
า”
สารคดี
ท่
องเที่
ยวและชี
วิ
ตวั
ยรุ่
เรื่
อง
“ไปเมื
องนอก”
สารคดี
ว่
าด้
วยการศึ
กษาเรื่
อง
“ตะวั
นจวนสิ้
นแสง”
ในนามปากกา
“อนุ
สร”
ทรงใช้
คอมพิ
วเตอร์
ในการเขี
ยนเรื่
อง เมื่
อ พ.ศ. ๒๕๒๕ นั
บเป็
นคนแรก
ในฐานะผู้
สร้
างภาพยนตร์
ได้
เขี
ยนเรื
องทำ
�บทภาพยนตร์
และถ่
ายทำ
�ด้
วยพระองค์
เองได้
รั
บความสำ
�เร็
จหลาย
เรื่
อง และยั
งได้
นิ
พนธ์
ละครออกแสดงทางโทรทั
ศน์
มากมาย ไม่
ว่
าจะเป็
นการแต่
งนวนิ
ยาย การทำ
�ละครเวที
การทำ
ละครโทรทั
ศน์
ล้
วนแล้
วแต่
เป็
นองค์
ประกอบที่
สำ
�คั
ญยิ่
งในการสร้
างภาพยนตร์
ซึ่
งเป็
นสิ่
งที่
พระองค์
ท่
านได้
สานต่
อมา
อย่
างยาวนานและจริ
งจั
ง อย่
างเช่
น การสร้
างบริ
ษั
ทละโว้
ภาพยนตร์
เมื่
อ พ.ศ. ๒๔๘๕ เป็
นผู้
นำ
�เทคโนโลยี
ต่
างประเทศ
เข้
ามาปรั
บปรุ
งงานด้
านภาพยนตร์
เป็
นผู้
ก่
อให้
เกิ
ดการลงทุ
น เป็
นผู้
ก่
อตั้
งสมาคมผู้
อำ
�นวยการสร้
าง, สร้
างงานด้
านบท
ประพั
นธ์
อั
นนำ
�มาเป็
นตำ
�ราเรี
ยนภาพยนตร์
นั
บว่
า พลตรี
พระเจ้
าวรวงศ์
เธอ พระองค์
เจ้
าอนุ
สรมงคลการ ทรงบุ
กเบิ
กและสร้
างสรรค์
วงการอุ
ตสาหกรรม
ภาพยนตร์
ไทย ให้
เจริ
ญรุ่
งเรื
องจนถึ
งทุ
กวั
นนี้
สิ้
นพระชนม์
ด้
วยภาวะการหายใจล้
มเหลว เมื่
อวั
นที่
๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๑ สิ
ริ
พระชั
นษา ๘๓ ปี
ผลงานสำ
�คั
ทรงเป็
นนั
กสร้
างภาพยนตร์
คนแรกของวงการภาพยนตร์
ไทย
ทรงเป็
นผู้
ก่
อตั้
งบริ
ษั
ทละโว้
ภาพยนตร์
ทรงเป็
นผู้
บุ
กเบิ
กการนำ
�เทคนิ
คพิ
เศษมาใช้
ในการสร้
างภาพยนตร์
เรื่
องแม่
นาคพระโขนง และเป็
นต้
นแบบ
ของการใช้
เทคนิ
คในการสร้
างภาพยนตร์
ในรุ่
นต่
อมา
ด้
านภาพยนตร์
ได้
สร้
างไว้
หลายเรื่
อง เช่
น เกาะสวาทหาดสวรรค์
แหวนทองเหลื
อง แม่
นาคพระโขนง
เมี
ยน้
อย เชลยศั
กดิ์
เครื
อฟ้
า เงิ
น เงิ
น เงิ
น นางทาส วิ
วาห์
พาฝั
น ฯลฯ
ด้
านบทโทรทั
ศน์
เช่
น อี
แตน นางทาส เทวดา นายพล มหาราช นางเงื
อก ความรั
กของดอกหญ้
า ขุ
นแผน
ผจญภั
ย วิ
หคหลงรั
ง ฯลฯ
ด้
านละครเวที
เช่
น กู้
เกี
ยรติ
ระบำ
�บาหลี
ดึ
กดำ
�บรรพ์
ทั
นสมั
ย ฯลฯ
ด้
านการประพั
นธ์
ใช้
นามปากกาว่
“ปรั
ศณี
ย์
โดยทรงนิ
พนธ์
ในหนั
งสื
อบางกอกสมิ
ทรงนิ
พนธ์
นวนิ
ยายเรื่
องแรกเรื่
อง หนุ่
มห้
าวสาวหาญ และเรื่
องต่
อๆ มา ถิ่
นกาขาว ยาหยี
เกษมสุ
ข ฯลฯ
ทรงได้
รั
บการยกย่
องเชิ
ดชู
พระเกี
ยรติ
คุ
ณเป็
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาศิ
ลปะการแสดง (สร้
าง - กำ
�กั
ภาพยนตร์
) ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๓๙
ทรงได้
รั
บการยกย่
องเชิ
ดชู
เกี
ยรติ
เป็
บู
รพศิ
ลปิ
สาขาศิ
ลปะการแสดง พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๘