

บันทึก นํ้าใจไมตรีที่สนามหลวง
74
ต่อจากนั้น การสอนทำ�ดอกไม้จันทน์ของกลุ่มนํ้าใจไมตรี ที่สนามหลวงได้พัฒนาต่อไป
โดยเปลี่ยนวัสดุเป็นเปลือกข้าวโพด เพื่อให้รายได้ที่อาจเกิดขึ้นไปตกกับชาวไร่ข้าวโพด แทนที่จะไปให้
โรงงานกระดาษ และเปลี่ยนแบบดอกไม้ เป็น
ดอกแดฟโฟดิล
ซึ่งตั้งชื่อภาษาไทยว่า
“ดอกดารารัตน์”
เพื่อจะได้ไม่ไปแย่งตลาด ไม่แย่งรายได้กับ ผู้ที่ทำ�ดอกไม้จันทน์กระดาษ แบบกุหลาบโบราณอยู่ก่อน
ต่อจากนั้น กา รสอนทำ �
ดอกไม้จันทน์ของศูนย์นํ้าใจไมตรี ก็ได้
ขยายตัวไปเปิดสอนตามศูนย์การค้า
และหน่วยราชการต่างๆ ทั่วประเทศ
โดยมีการพัฒนาวัสดุแบบต่างๆ เช่น
เยื่อใบยางพารา ใบไผ่หวาน ใบตอง
ไม้โมกมัน และไม้จันทน์หอม
สำ�หรับดอกไม้จันทน์ที่ทำ�
จากเนื้อไม้โมกมัน และไม้จันทน์หอม
นั้น ได้เตรียมจัดทำ�จำ�นวนจำ�กัด
สำ�หรับมอบให้บุคคลสำ�คัญและผู้มี
อุปการคุณต่อศูนย์นํ้าใจไมตรี จำ�นวน
๑,๐๐๐ ช่อเท่านั้น โดยใช้เนื้อไม้จริง
มาไสฝานให้บางแล้วประดิษฐ์เป็น
ดอกไม้จันทน์ ตามวิธีที่เคยทำ�กันมา
ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ แต่ปัจจุบันนี้
ไม่ใคร่มีใครทำ�แล้วเพราะเป็นไม้
หวงห้าม และหายาก