Page 278 - กัมมัฏฐานโบราณล้านนา
P. 278

๒๖๓

วิปัสสนาเจา้ น้ัน มผี ละอานสิ งสอ์ ันกวา้ งขวางมากนัก ก็อาจจะหื้อได้บาบัดตัดเสียยังบาปและเวรแห่งผู้
ภาวนาน้ันหือฉิบหายเสียแล ยกเอาบุคคลผู้อันได้ภาวนายังวิปัสสนาน้ัน ได้ตั้งอยู่ในมรรคผลนิพพาน
ธรรมเจ้านั้นแท้บ่สงสัยจ๊ะแล เป็นดั่งแม่แห่งมหาเถระเจ้าตนหนึ่ง อันถือมิจฉาทิฐินั้น อันบ่ยินดีใน
ศาสนาสักอนั แม้วา่ มหาเถรเจ้าตนลกู หากสง่ั สอนหอื้ ยินดีในศาสนาด้วยประการสนั ใดก็ดี นางผู้เป็นแม่
น้ัน ก็บ่ยินดี ก็เท่าถือเอายังมิจฉาทิฐิแห่งอายะติถีอยู่สิ่งเดียวแล ยังมีในวันหนึ่งมหาเถรเจ้าตนเป็นลูก
ก็คะนึงใจว่า ในวันพรุ่งน้ีกูก็จักไปสู่แม่แห่งกู แล้วกูจักถามดูยังคามักแห่งกู แล้วกูจะเล้าโลมเอาด้วย
อุบายอันชอบเต๊อะ คะนิงสันน้ีแล้ว ตกในวันลูน มหาเถรเจ้าก็ไปสู่เฮือนแม่แห่งตนแท้ห้ันแล มหาเถร
เจา้ จงิ่ กล่าวซึ่งแมแ่ หง่ ตนว่า ดูราอุบาสิกายังมักปรารถนาใคร่ได้

         (๑๘) อันใดจา นางผู้แม่กล่าวว่าข้านี้ก็ปรารถนามักใคร่ได้ยังมีอายุมั่นยืนยาวแล และหา
พยาธิบ่ไดน้ น้ั แล อนั หนึง่ ใครห่ ้อื มีข้าวของเงินคาอันมากหลาย จ่ายบ่รู้เสี้ยงสักเตื้ออันนั้นแล ข้าน้ีก็เท่า
ใครไ่ ดย้ งั วตั ถสุ ามประการสงิ่ เดยี วแลวา่ อั้น จิง่ ลูกแหง่ ตนหนั้ แล

         อันว่าแม่แห่งมหาเถรเจ้านั้นก็เล้ียงสุนัขไว้สามตัว มันก็ฮักเสมือนด่ังลูกนั้นแล แม้ว่าอยู่ที่
ใดก็ดี เฑยี รยอ่ มร้องเรียกหายังหมาสามตวั นั้นอยู่ไจ้ๆ นางกม็ ีใจอันรา่ เปิงถึงหมาอยู่บ่ขาดสักวันสักยาม
บ่มีแล เม่อื นนั้ มหาเถรเจ้าคะนงิ ใจวา่ กูจักไปใส่ชื่อหมาสามตัวนี้ดูเต๊อะ ท่านก็ร่าเปิงสันนั้นแล้วก็กล่าว
จง่ิ แม่ว่า ดรู าอบุ าสกิ าเฮาจะใส่ชื่อหมาสามตัวน้ีแก่อุบาสิกา เพ่ือจักห้ือมีอายุยืน หาพยาธิบ่ได้แล หื้อมี
ข้าวของเงินคามากนักแล แก่มหาอุบาสิกาจะแล นางผู้เป็นแม่ข้าแก่เจ้ากู ครั้นว่าจะหื้อวัตถุสาม
ประการนี้ หื้อวุฒิจาเริญเป็นไปดังอ้ัน อันข้าก็หากจักกระทาตามคาเจ้าจะแล เม่ือน้ันมหาเถรเจ้าต๋น
เปน็ ลูกนน้ั จงึ กล่าววา่ ดรู าอุบาสิกา เฮาจักใส่ช่ืออันหมาตัวเก๊าช่ือว่า อนิจจะ ตัวกลางช่ือว่า ทุกขะ ตัว
ปลายช่อื ว่า อนตั ตา เพอ่ื ว่าจักห้อื วฒุ จิ าเรญิ แกม่ หาอุบาสกิ าจ๊ะแลว่าอ้ันแล้ว มหาเถรเจ้าก็หนีมาสู่ที่อยู่
แห่งตนหั้นแล ก็ด้วยเต๋ชะแห่งมหาเถรเจ้าตนเป็นลูกน้ัน คันว่านางผู้เป็นแม่นั้นร้องหมาว่าอนิจจะดัง
อนั้ หมาตวั เกา๊ น้ันก็แล่นมาหา คันร้องวา่ ทกุ ขะ หมาตวั กลางนนั้ ก็แล่นมาหา คันร้องว่าอนัตตา หมาตัว
ถว้ นสามก็แล่นมาหาหั้นแล เม่ือนางไปในที่ใดก็ร้องหาหมาสามตัวนั้นว่า อนิจจะ ทุกขะ อนัตตาว่าอั้น
ยามนน้ั หมาสามตวั นัน้ กเ็ ล่นมาหา กไ็ ปตามทกุ ทีช่ แุ ห่ง

         นางผู้เป็นแม่ก็ใส่ใจว่าเป็นช่ือหมาแท้ ก็มาร่าเปิงถึงหมาน้ันอยู่ไจ้ๆ เหตุว่าฮักหมาน้ันมาก
นกั ดว้ ยเตชะแหง่ วปิ สั สนาเจ้าสามดวงน้นั กม็ ากาจัดเสยี ยังมิจฉาทิฐอิ ันเปน็ บาปร้ายน้ัน อันมากั้งบังไว้
ยงั หนทางนิพพานแก่นางผู้นั้นเสีย บ่เท่าแต่นั้นก็มาไหม้เสียยังบาปและเผาเสียยังอกุสะละแห่งนางอัน
ได้กระทามาแต่อเนกชาติแต่ก่อนน้ัน ก็วินาศฉิบหายเสียเส้ียงแล้ว ก็ควรมีปีติสมาธิมัคคะผละอัน
ประเสริฐก็ลวดบังเกดิ มีในตนแห่งนางผู้น้ัน อันเป็นแม่แห่งมหาเถรเจ้าน้ัน เป็นด่ังหลับต่ืนมา อนึ่งเป็น
ดงั อยู่ที่มืดออกมาหาที่แจ้งน้ัน นางก็ร่าเปิงว่า กูนี้ผิว่ามหาเถรเจ้าตนเป็นลูก และบ่มากระทาอุตสาหะ
สั่งสอนเอายงั กนู ้ีแท้ดังอ้ัน กนู ก้ี เ็ ฑียรยอ่ มจกั ฉบิ หายหล่มจมอยู่ในวัฏฏสงสาร มีมหาอบายทั้ง ๔ น้ัน ก็
จกั ได้เปน็ ทอี่ ยูแ่ ห่งกแู ท้ บ่สงสัยจ๊ะแล วา่ อั้นนางก็รู้จักคุณ
   273   274   275   276   277   278   279   280   281   282   283