64
|
วั
ฒนธรรม วิ
ถี
ชี
วิ
ตและภู
มิ
ปั
ญญา
พิ
ณเปี๊
ยะ
เครื่
องดี
ดแห่
งล้
านนา
ในบรรดาเครื่
องดนตรี
เพชรน�้
ำเอกแห่
งล้
านนา
พิ
ณเปี
๊
ยะ
จั
ดเป็
นเครื่
องดี
ดที
่
มี
คุ
ณลั
กษณะพิ
เศษแตกต่
างไปจากเครื่
องดี
ดชนิ
ดอื่
นๆ ด้
วยเสี
ยงก้
องกั
งวานและท่
วงท�
ำนอง
สู
งต�่
ำที่
ดั
งออกมาจากพิ
ณซึ่
งแนบอยู่
บนแผ่
นอกหรื
อหน้
าท้
องที่
เปลื
อยเปล่
าของผู้
บรรเลง
สามารถตรึ
งความรู้
สึ
กของผู้
ฟั
งให้
สงบนิ่
ง ด�
ำดิ่
งไปกั
บมนตร์
ขลั
งของเสี
ยงอั
นไพเราะ
เส้
นทางความเป็
นมาของพิ
ณเปี
๊
ยะสื
บย้
อนกลั
บไปได้
ถึ
งเครื่
องดนตรี
ของชาวอิ
นเดี
ย
จั
ดอยู่
ในตระกู
ลของวี
ณา หรื
อพิ
ณ ส่
วนค�
ำว่
าเปี๊
ยะ เชื่
อว่
ามาจากการเรี
ยกชื่
อที่
ต่
างกั
นไป
ในแต่
ละท้
องถิ่
น เช่
น เพี
ย เพี้
ย เพี
ยะ เพลี้
ย ค�
ำว่
า พิ
ณเพี
ยะ หรื
อ พิ
ณเปี
๊
ยะ ก็
เช่
นเดี
ยวกั
น
เอกลั
กษณ์
ของพิ
ณเปี
๊
ยะอยู
่
ที่
โครงสร้
างของพิ
ณ ประกอบด้
วยส่
วนกะโหลก
หรื
อกะโหล้
ง ท�
ำจากกะลามะพร้
าวหรื
อน�้
ำเต้
าผ่
าซี
ก คั
นพิ
ณท�
ำจากไม้
แก่
นขนาดกลม
ยาว วั
ดจากปลายด้
านใหญ่
ไปยั
งด้
านเล็
กประมาณ ๗๐ - ๘๐ เซนติ
เมตร ไม้
ที่
ใช้
ท�
ำคั
นเปี
๊
ยะ
เป็
นไม้
เนื้
อแข็
ง เช่
น ไม้
ประดู
่
ไม้
ชิ
งชั
น ไม้
แดง ไม้
มะเกลื
อ ส่
วนปลายคั
นเปี
๊
ยะจะมี
ลู
กบิ
ดตามจ�
ำนวนสายลวด เริ่
มตั้
งแต่
๒ - ๗ สาย ปลายสุ
ดตอนบนของคั
นเปี
๊
ยะสวม
ด้
วยหั
วเปี
๊
ยะซึ่
งประดิ
ษฐ์
จากส�
ำริ
ดหรื
อทองเหลื
อง เป็
นรู
ปนกหั
สดี
ลิ
งค์
พญานาค
นกยู
ง ช้
าง ตามความเชื่
อของสั
ตว์
ในป่
าหิ
มพานต์
เสน่
ห์
ของพิ
ณเปี
๊
ยะไม่
ได้
อยู
่
ที่
รู
ปลั
กษณ์
อั
นงดงามเท่
านั้
น หากแต่
อยู
่
ที่
เทคนิ
คการ
เล่
นและความช�
ำนาญที่
ผู
้
บรรเลงสามารถสร้
างความสั่
นพลิ้
วจากการดี
ดสายเปี
๊
ยะได้
อย่
าง
เหมาะเจาะ วิ
ธี
การเล่
นเปี
๊
ยะจะคล้
ายกั
บพิ
ณชนิ
ดอื่
นๆ คื
อใช้
มื
อซ้
ายกดสายและถื
อคั
นพิ
ณ
เฉี
ยงกั
บล�
ำตั
วของผู้
เล่
น ดี
ดสายด้
วยมื
อขวา โดยใช้
นิ้
วในการปาด เขี่
ย และป๊
อกสายเปี๊
ยะ
ให้
เกิ
ดเสี
ยงไพเราะ เชื่
อมโยงกั
บการบั
งคั
บจั
งหวะเปิ
ดปิ
ดของกะโหล้
งที่
แนบอยู
่
กั
บกล้
ามเนื้
อ
บนหน้
าอกหรื
อหน้
าท้
องเพื่
อปรั
บแต่
งเสี
ยงตามต้
องการ จนเกิ
ดเป็
นบทเพลงที่
เปี
่
ยม
ไปด้
วยอารมณ์
ความรู้
สึ
กลึ
กซึ้
งกิ
นใจ
ในอดี
ต เปี
๊
ยะเป็
นเครื่
องดนตรี
ที่
นิ
ยมเล่
นกั
นแต่
ในราชส�
ำนั
กฝ่
ายเหนื
อ ต่
อมาได้
แพร่
ออกมาสู
่
กลุ
่
มชาวบ้
านที่
พอมี
ฐานะและมี
ฝี
มื
อทางดนตรี
เพราะหั
วเปี
๊
ยะซึ่
งเป็
น
ส่
วนประกอบที่
ส�
ำคั
ญนั้
นหายากและมี
ราคาแพง ประกอบกั
บเป็
นเครื่
องดนตรี
ที่
เล่
นยาก
แต่
มี
เสี
ยงไพเราะมาก ดั
งนั้
นคนที่
เล่
นเปี
๊
ยะได้
จึ
งเป็
นที่
ยกย่
องชื่
นชมเป็
นพิ
เศษ ท�
ำให้
หนุ
่
มๆ
ล้
านนาสมั
ยก่
อนนิ
ยมเสาะแสวงหาเปี
๊
ยะมาเล่
นกั
นเพราะจะได้
เปรี
ยบเครื่
องดนตรี
ชนิ
ดอื่
นๆ
ในเวลาไปแอ่
วสาวยามค�่
ำคื
น
“
สั
นนิ
ษฐานกั
นว่
า ชื่
อ ‘พิ
ณเปี๊
ยะ’
มาจากการที่
ในอดี
ตชาวล้
านนา
เรี
ยกพิ
ณเปี๊
ยะสั้
นๆ ว่
า “เปี๊
ยะ”
ซึ่
งแปลว่
า อวด หรื
อ เที
ยบเชิ
ง
(ในภาษาเหนื
อ) คนที่
เล่
นเปี๊
ยะได้
จะดู
โก้
มากกว่
าคนที่
เล่
นสะล้
อ ซอ
ซึ
ง ดั
งนั้
น การเล่
นพิ
ณเปี๊
ยะแต่
ละ
ครั้
งจึ
งเหมื
อนเล่
นอวดกั
น เป็
นการ
ประชั
นขั
นแข่
งกั
นนั่
นเอง
”
• เทคนิ
คการเล่
นเปี๊
ยะ ผู้
เล่
นต้
องครอบกล่
องเสี
ยงไว้
ที่
หน้
าอกและ
ดี
ดด้
วยเทคนิ
คเฉพาะที่
เรี
ยกว่
า ป๊
อก โดยใช้
นิ้
วก้
อยหรื
อนิ้
วนางดี
ดสาย
และใช้
โคนนิ้
วชี้
ของมื
อนั้
นแตะสายที่
จุ
ดเสี
ยงจึ
งจะได้
เสี
ยงดั
งสดใส
กั
งวานคล้
ายเสี
ยงระฆั
ง