Page 123 - Thai Culture

Basic HTML Version

ศาสตร์
และศิ
ลป์
งานช่
างไทย
|
 121
โคมล้
านนา
วิ
จิ
ตรศิ
ลป์
แห่
งเครื่
องบู
ชา
โคมล้
านนาเป็
นงานหั
ตถกรรมของชาวล้
านนาที่
มี
มาแต่
โบราณ
ความงดงามของโคมอยู
ที่
ลายฉลุ
ตกแต่
งซึ่
งล้
วนมี
ความหมายมงคล จุ
ดประสงค์
คื
อเพื่
อใช้
เป็
นพุ
ทธบู
ชาหรื
อเครื่
องบู
ชาบุ
คคลที่
ควรบู
ชา โคมล้
านนายั
งเป็
นสิ่
งที่
สะท้
อน
สภาพสั
งคมที่
มี
ความเชื่
อด้
านพุ
ทธศาสนาและนั
บถื
อผี
ร่
วมกั
นของชาวไทยล้
านนา
ท�
ำให้
การสร้
างสรรค์
งานของช่
างท�
ำโคมเต็
มไปด้
วยความวิ
จิ
ตรบรรจงและความ
ตั้
งใจที่
จะท�
ำงานอย่
างเต็
มฝี
มื
อความสามารถ
จากหลั
กฐานภาพโคมบนผื
นผ้
าพระบฏสมั
ยพระเจ ้
าติ
โลกราช
พระมหากษั
ตริ
ย์
ล้
านนาแห่
งราชวงศ์
มั
งรายเมื่
อ ๕๐๐ ปี
ก่
อน ซึ่
งค้
นพบโดย
อาจารย์
ศิ
ลป์
พี
ระศรี
แห่
งกรมศิ
ลปากร เมื่
อปี
พ.ศ. ๒๕๐๑ ที่
วั
ดดอกเงิ
น จั
งหวั
เชี
ยงใหม่
ท�
ำให้
สั
นนิ
ษฐานได้
ว่
า การท�
ำโคมเป็
นงานช่
างฝี
มื
อดั้
งเดิ
มของไทย
มาแต่
โบราณ ทั้
งยั
งมี
ลั
กษณะเฉพาะของตนเอง รู
ปทรงของโคมล้
านนาท�
ำขึ้
จากโครงไม้
ไผ่
เฮี
ยะ ซึ่
งเป็
นไม้
ไผ่
ปล้
องยาวและขึ้
นเฉพาะในภาคเหนื
อเท่
านั้
น�
ำมาหั
กเป็
นวงโค้
งแล้
วหุ
มทั
บด้
วยกระดาษสาหรื
อผ้
าฝ้
ายทอมื
อ ประดั
บลวดลาย
กระดาษตั
ดฉลุ
ที่
มี
ความหมายเป็
นมงคล เช่
น ลายดอกก๋
ากอก (ลายประจ�
ำยาม)
และลายดวงตะวั
โคมล้
านนามั
กใช้
ในประเพณี
ยี่
เพ็
ง บางครั้
งจึ
งเรี
ยกว่
าโคมยี่
เพ็
ง (หรื
อ ยี่
เป็
ง)
จั
ดขึ้
นในคื
นวั
นขึ้
น ๑๕ ค�่
ำเดื
อน ๑๒ การประดิ
ษฐ์
โคมจะเริ่
มท�
ำกั
นในช่
วง
ก่
อนวั
นงานเพื่
อเตรี
ยมโคมไว้
ใช้
ในการจุ
ดผางประที
สบู
ชาที่
วั
ด ผางประที
สหรื
ผางประที
ป คื
อภาชนะดิ
นเผาคล้
ายถ้
วยเล็
กๆ ด้
านในใส่
ขี้
ผึ้
งหรื
อน�้
ำมั
นใช้
วางไว้
ในโคม) โดยจะแขวนใส่
ค้
างโคม (ค้
างโคมคื
อเสาไม้
ไผ่
ขนาดใหญ่
ส่
วนปลายเสา
มี
ค้
างไม้
และรอกส�
ำหรั
บชั
กโคมขึ้
นแขวน) บู
ชาตามพระธาตุ
เจดี
ย์
แขวนไว้
หน้
วิ
หาร กลางวิ
หาร
ลั
กษณะของโคมล้
านนามี
หลากหลายรู
ปแบบขึ้
นอยู
กั
บการสร้
างสรรค์
ตามภู
มิ
ปั
ญญาของแต่
ละท้
องถิ่
น รู
ปแบบโคมโบราณที่
ยั
งสื
บทอดมาจนปั
จจุ
บั
ได้
แก่
โคมรั
งมดส้
ม โคมดาว โคมไห โคมเงี้
ยว โคมกระบอก โคมหู
กระต่
าย
โคมดอกบั
ว โคมญี่
ปุ่
น โคมผั
ด ฯลฯ มี
ลั
กษณะดั
งนี้
ในสมั
ยโบราณการใช้
โคมไฟมี
จุ
ดประสงค์
เพื่
อให้
ความสว่
างแทนตะเกี
ยง แต่
เนื่
องจากน�้
ำมั
มี
ราคาแพง การจุ
ดโคมไฟจึ
งมั
กมี
เฉพาะ
ในพระราชส�
ำนั
กและบ้
านเรื
อนของเจ้
านายเท่
านั้
ชาวล้
านนานิ
ยมจุ
ดโคมบู
ชาช่
วงหั
วค�่
ำหลั
งจาก
ได้
สดั
บพระธรรมเทศนาเป็
นที่
เรี
ยบร้
อยแล้
โดยอธิ
ษฐานบู
ชาพระพุ
ทธเจ้
า ๕ พระองค์
ในภั
ทรกั
ปนี้
ได้
แก่
พระกกุ
สั
นธพุ
ทธเจ้
พระโกนาคมนพุ
ทธเจ้
า พระกั
สสปพุ
ทธเจ้
พระศากยมุ
นี
โคตมพุ
ทธเจ้
และพระอริ
ยเมตตรั
ยพุ
ทธเจ้