46
มรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรม
ซอ หมายถึ
ง การร้
องหรือการขั
บร้
องเพลงพื ้
นบ้
าน
ของล้
านนา เรี
ยกอี
กอย่
างหนึ่
งว่
า ซอพื
้
นเมื
อง เป็
นเพลง
พื
้
นบ้
านอย่
างหนึ่
งของชาวล้
านนาไทยในเขต ๘ จั
งหวั
ด
ภาคเหนือ และบางส่
วนของจั
งหวั
ดสุ
โขทั
ย อุ
ตรดิ
ตถ์ และ
ตาก การซอมี
ทั
้งการโต้
ตอบกั
นในลั
กษณะบทเกี ้
ยวพาราสี
ระหว่
างชายหญิ
ง หรื
อซอเดี่
ยวเพื่
อเล่
าเรื่
อง พรรณนา
เหตุ
การณ์
มีเครื่
องดนตรีพื้นบ้านบรรเลงประกอบ
ผู
้
ขั
บเพลงซอ หร ื
อที่
เร ี
ยกตามภาษาท้
องถ ิ่
นว่
า
“ช่
างซอ” ที่
ร้
องโต้
ตอบกั
นเรี
ยกว่
า “คู
่
ถ้
อง” ช่
างซอที่
เป็
น
คู
่
ถ้
องต้
องเป็
นผู
้
มี
ปฏิ
ภาณไหวพริ
บดี
และได้
รั
บการฝึ
กฝน
จนชำนาญ เพราะต้
องโต้
ตอบกั
บอี
กฝ่
ายอย่
างทั
นท่
วงที
ต้
องมี
ความรู
้
รอบตั
วและมี
ความจำดี เพราะสามารถนำสิ่
ง
รอบข้
างมาใช้
ในการซอได้ นอกจากนี
้
ต้
องจำทำนองของ
เพลงซอได้อย่างขึ้นใจ
เนื
้
อร้
องของซอเป็
นการแก้
ปั
ญหาเฉพาะหน้
าขึ
้
นอยู
่
กั
บสถานการณ์
และโอกาสที่
ไปแสดง เช่
น ถ้
าไปแสดง
ในงานบวชนาค ช่
างซอก็
จะร้
องเพลงซอพรรณนาเกี่
ยวกั
บ
การตอบแทนพระคุ
ณพ่
อแม่
เพลงซอ หร ื
อทำนองซอล ้
านนา แบ่
งตามเขต
วั
ฒนธรรมได้
เป็
น ๒ เขต คื
อ เขตล้
านนาตะวั
นตก ได้
แก่
เชี
ยงใหม่ เชี
ยงราย ลำปาง ลำพู
น ซอหรื
อขั
บซอเข้
ากั
บ
ปี ่
หรื
อวงปี ่
จุ
ม คื
อ มี
ปี ่
เป็
นหลั
กในการบรรเลงประกอบ
เรียกโดยรวมว่า ซอเชียงใหม่
และล้านนาตะวั
นออก ได้แก่
น่
าน แพร่ เชี
ยงราย (บางส่
วน) และพะเยา ขั
บซอเข้
ากั
บ
สะล้อและปิน (ซึง) เรียกโดยรวมว่
า ซอน่
าน
ซอเช ี
ยงใหม่
ม ี
ทำนองซอหลั
กๆ ๗ ทำนอง ค ื
อ
ตั
้งเชียงใหม่
จะปุ
ละม้าย เงี้ยว พม่
า อื่
อ และพระลอ หรือ
ล่
องน่
าน ส่
วนซอน่
านมี
ทำนองซอหลั
กๆ คื
อ ซอล่
องน่
าน
ลั
บแลง ดาดแพร่
และปั
่
นฝ้าย การขั
บซอเชียงใหม่
จะเร็
วกว่
า
การขั
บซอน่
าน ขั
้
นตอนการแสดงซอเริ่
มด้
วยพิ
ธี
ไหว้
ครู
โหมโรง เกริ่
น เข้าสู
่
เนื้อหา และบทลา
ซอล้
านนา
การขั
บซอได้
มี
พั
ฒนาการมาตลอดตามยุ
คสมั
ย เช่น
ในสมั
ยพระราชชายาเจ ้
าดารารั
ศมี
ในพระบาทสมเด็
จ
พระจุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู
่
หั
ว ทรงเป็
นผู
้
ริ
เริ่
มละครซอขึ
้
นใน
จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่ และในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เกิ
ดซอสตริ
ง
หรื
อซอร่
วมสมั
ย ซึ่
งนำทำนองซอบางทำนองมาประยุ
กต์
กั
บดนตรีสากล
ซอ มีประวั
ติความเป็
นมาที่
ยาวนาน เป็
นเอกลั
กษณ์
ทางวั
ฒนธรรมที่
สำคั
ญและโดดเด่
นยิ่
งของชาวล้
านนา
มี
ความสั
มพั
นธ์
กั
บวิ
ถี
ชี
วิ
ตความเป็
นอยู
่
เป็
นกระจกเงา
สะท้
อนวิ
ถี
การดำรงชี
วิ
ตของชาวล้
านนาในด้
านต่
างๆ เช่
น
ความเชื่
อ ค่
านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี สถาบั
นศาสนา
สถาบั
นครอบครั
ว การประกอบอาช ี
พ อาหารและ
โภชนาการ การแต่
งกาย นอกจากนี
้
ยั
งมี
ความงดงาม
ของภาษาคำเมือง หรือภาษาถิ่
นเหนือ จึงเป็
นภู
มิปั
ญญาทาง
ภาษาที่
บรรพบุ
รุ
ษได้
สร้
างสรรค์
ไว้
อย่
างงดงามทรงคุ
ณค่
า
น่
าภู
มิใจยิ่
ง
ปั
จจุ
บั
นการขั
บซอไม่ค่อยได้
รั
บความสนใจเท่าที่
ควร
เนื่
องจากกระแสดนตรี
สมั
ยใหม่
และละครโทรทั
ศน์
ที่
เข้
าไป
มี
บทบาทในวิ
ถี
ชี
วิ
ตของผู
้
คนมากขึ
้
น จนทำให้
การขั
บซอ
ที่
เกี่
ยวข้
องกั
บวิ
ถี
ชี
วิ
ตค่
อยๆ จางหายไปเช่
นเดี
ยวกั
บเพลง
พื
้
นบ้
านอื่
นๆ ที่
มี
อยู
่
ในประเทศไทย ตั
วอย่
างผู
้
ที่
มี
ความ
สามารถโดดเด่นในการขั
บซอล้านนา ได้แก่
แม่ครู
จั
นทร์สม
สายธารา
ศิลปินแห่
งชาติ
พ่
อครู
คำผาย นุ
ปิง
ศิลปินแห่
งชาติ
แม่
ครู
บั
วซอน ถนอมบุ
ญ
ฯลฯ