Page 162 - dcp7

Basic HTML Version

151
ลิ
เกทรงเครื่
อง
เรี
ยบเรี
ยงโดย วั
นทนี
ย์
ม่
วงบุ
ลิ
เกทรงเครื่
อง เป็
นการแสดงพื้
นบ้
านของภาคกลางเริ่
มมี
ขึ้
นใน
สมั
ยพระบาทสมเด็
จพระจุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว ราวปี
พ.ศ. ๒๔๕๐
โดยพระยาเพชรปาณี
จั
ดแสดงขึ้
นเป็
นครั้
งแรกที่
โรง (หรื
อเรี
ยกว่
า วิ
ก)
ใกล้
ป้
อมพระกาฬ ริ
มคลองโอ่
งอ่
างตรงข้
ามวั
ดราชนั
ดดาราม
ลิ
เกทรงเครื่
อง เป็
นการแสดงที่
ผู้
แสดงเจรจาร้
องและรำ
�แสดง
ท่
าทางตามธรรมชาติ
โดยมี
วงปี่
พาทย์
บรรเลงประกอบการแสดง
ผู้
แสดงแต่
งกายเลี
ยนแบบเครื่
องทรงและเครื่
องราชอิ
สริ
ยาภรณ์
กำ
�มะลอ ตั
วพระสวมปั
นจุ
เหร็
จยอด เสื้
อเยี
ยรบั
บ นุ่
งผ้
ายก สนั
บเพลา
สวมสั
งวาลย์
ติ
ดอิ
นทรธนู
สายสะพายประดั
บโบว์
ที
บ่
าทั
งสอง สวมถุ
งเท้
าขาว
ตั
วนางสวมมงกุ
ฎกษั
ตริ
ย์
ใส่
เสื้
อแขนสั้
นปั
กดิ้
น สวมสั
งวาลย์
ห่
มสไบ ประดั
บโบว์
ที่
บ่
าทั้
งสอง สวมถุ
งเท้
าขาว นุ่
งยก
จี
บหน้
านาง
การรำ
�ที่
สำ
�คั
ญในการแสดง ประกอบด้
วยการรำ
�ออกตั
วของผู้
แสดงโดยรำ
�ประกอบเพลงเชิ
ด เพลงเสมอ
การรำ
�หน้
าเตี
ยงซึ
งเป็
นการรำ
�ใช้
บท หรื
อการตี
บทประกอบการร้
องเพลงไทยเดิ
มโดยเนื
อหามั
กเป็
นการบรรยายแนะนำ
�ตั
หรื
อเล่
าเรื่
องราว การรำ
�เข้
าพระเข้
านาง หรื
อการรำ
�เกี้
ยวเป็
นการรำ
�ระหว่
างพระและนางซึ่
งต้
องใช้
ทั
กษะทางการ
ร่
ายรำ
�สู
ง โดยที่
ทั้
งคู่
ต้
องรำ
�และร้
องให้
สั
มพั
นธ์
กั
น การรำ
�ในเชิ
งการต่
อสู
หรื
อรำ
�กระบวนไม้
รบ ผู้
แสดงต้
องใช้
ทั
กษะสู
ในการร่
ายรำ
�อาวุ
ธ มี
ทั้
งอาวุ
ธสั้
นและอาวุ
ธยาวเช่
น ดาบ กริ
ช ทวน กระบอง ผู้
แสดงต้
องฝึ
กหั
ดการใช้
อาวุ
ธให้
คล่
อง
ตามเนื้
อหาของเรื่
องนั้
นๆ นั
บเป็
นวิ
ชาการร่
ายรำ
�อั
นสุ
ดยอดแบบฉบั
บหนึ่
งของการแสดงลิ
เกทรงเครื่
อง
นอกจากการรำ
�แล้
ว ผู้
แสดงต้
องมี
กระแสเสี
ยงการร้
องการเจรจาที่
ชั
ดถ้
อยชั
ดคำ
� แม่
นยำ
�ในบท และรอบรู้
ใน
เรื่
องที่
แสดง ดั
งนั้
น ผู้
แสดงลิ
เกจึ
งต้
องมี
ทั
กษะทางการแสดงรอบด้
านอย่
างคล่
องแคล่
ว แสดงได้
ถึ
งรสถึ
งอารมณ์
จนได้
รั
บความชื่
นชอบและเป็
นขวั
ญใจของผู้
ชมที่
เรี
ยกติ
ดปากกั
นว่
า ขวั
ญใจแม่
ยก
ลิ
เกทรงเครื่
องจั
ดเป็
นต้
นแบบของการแสดงลิ
เกในยุ
คต่
อมา เนื่
องจากกระบวนท่
ารำ
� การร้
องเพลงไทยเดิ
และทางในการแสดงเป็
นกรอบและแบบแผนที่
ใช้
สำ
�หรั
บการแสดงลิ
เก โดยเฉพาะเพลงรานิ
เกลิ
งที่
ครู
ดอกดิ
น เสื
อสง่
เป็
นผู้
คิ
ดขึ้
น และใช้
ร้
องเป็
นอั
ตลั
กษณ์
ของลิ
เกสื
บต่
อมา
แต่
ปั
จจุ
บั
น กรอบในการแสดงลิ
เกทรงเครื่
องได้
เลื
อนหายไปตามกาลเวลา อั
นเนื่
องมาจากวิ
ธี
การฝึ
กหั
ดกระบวน
ท่
ารำ
� การร้
อง การด้
นกลอนแบบโบราณ มั
กไม่
ได้
รั
บความนิ
ยมและวิ
ถี
ทางการแสดงได้
ปรั
บเปลี่
ยนให้
เข้
ากั
บสมั
ยนิ
ยม
เพื่
อความอยู่
รอดทางการแสดง เช่
น การแต่
งกายด้
วยเครื่
องเพชรคริ
สตั
ลที่
ดู
แวววาว ซึ่
งผู้
ชมจะให้
ความสนใจมากกว่
เครื่
องแต่
งกายแบบโบราณหายาก และที่
สำ
�คั
ญผู้
แสดงลิ
เกทรงเครื่
องได้
ก็
มี
จำ
�นวนน้
อยลง จึ
งส่
งผลให้
หาชมลิ
เก
ทรงเครื่
องได้
ยากในปั
จจุ
บั
ลิ
เกทรงเครื่
อง ได้
รั
บการขึ้
นทะเบี
ยนเป็
นมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรมของชาติ
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๓
การแสดงลิ
เกทรงเครื่
อง