Page 127 - dcp7

Basic HTML Version

116
ฟ้
อนม่
านมุ้
ยเชี
ยงตา
เรี
ยบเรี
ยงโดย ประเมษฐ์
บุ
ณยะชั
ฟ้
อนม่
ายมุ้
ยเชี
ยงตา เป็
นการฟ้
อนแบบหนึ่
ง มี
ทั้
งฟ้
อนมื
อเปล่
า และฟ้
อนโดยถื
อแพรยาวคนละผื
น การฟ้
อน
เป็
นการฟ้
อนประกอบบทขั
บร้
อง และประกอบดนตรี
เพลงม่
านมุ้
ยเชี
ยงตาเป็
นทำ
�นองไทยภาคเหนื
อ สำ
�เนี
ยงเพลงพม่
เครื่
องภาษาจำ
�พวกเครื่
องหนั
งมี
ทั้
งของไทยภาคกลางและมอญ-พม่
าผสมกั
น ส่
วนเนื้
อร้
องนั้
นไทยเข้
าใจว่
าเป็
ภาษาพม่
า แต่
เมื่
อนำ
�ไปให้
พม่
าฟั
งก็
ไม่
สามารถฟั
งออกได้
แต่
มี
กระแสเสี
ยงพม่
าจึ
งอาจสั
นนิ
ษฐานได้
ว่
าเดิ
มคงเป็
นของ
ไทยแล้
วตกไปอยู่
ในพม่
าแล้
วไทยภาคเหนื
อรั
บกลั
บมาอี
กหน ถ้
อยคำ
�การขั
บร้
องเพลงดนตรี
จึ
งได้
รั
บอิ
ทธิ
พลของไทย
แม้
กระบวนท่
ารำ
�ก็
มี
ท่
าของไทยปะปนเข้
าไปมาก
ฟ้
อนม่
านมุ้
ยเชี
ยงตานี้
พระราชชายาเจ้
าดารารั
ศมี
ในพระบาทสมเด็
จพระจุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว โปรดฯ ให้
ปรั
บปรุ
งมาจากฟ้
อนกำ
�เป้
อ หรื
อระบำ
�ผี
เสื้
อ โดยให้
แต่
งกายแบบสตรี
ในพระราชสำ
�นั
กของพม่
า ทั้
งปรั
บกระบวนรำ
ให้
งดงาม ใช้
ผู้
ฟ้
อน ๑๖ คน โดยมี
ครู
ฟ้
อนในคุ้
มเจ้
าหลวง (เจ้
าอิ
นทวโรรสฯ) และคุ้
มวั
ง(พระราชชายาฯ) ประกอบด้
วย
หม่
อมแส หม่
อมพั
น ณ เชี
ยงใหม่
ครู
หลง บุ
ญจู
หลง และเมื่
อคุ
ณครู
ลมุ
ล ยมะคุ
ปต์
ครู
ละครวั
งสวนกุ
หลาบเป็
ผู
สอนขึ
นไปเป็
นครู
นาฏศิ
ลป์
ในคุ
มเจ้
าหลวง ได้
นำ
�เอาศิ
ลปะการฟ้
อนรำ
�ของภาคกลางขึ
นไปปรั
บปรุ
ง โดยมี
ครู
สงั
ด ยมะคุ
ปต์
สามี
ขึ้
นไปสอนปี่
พาทย์
ด้
วย การฟ้
อนม่
านมุ้
ยเชี
ยงตา จึ
งมี
ความเป็
นไทยและงดงามยิ่
งขึ้
น พระราชชายาเจ้
าดารารั
ศมี
ได้
นำ
�ทู
ลเกล้
าแสดงถวายพระบาทสมเด็
จพระปกเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว และสมเด็
จพระนางเจ้
ารำ
�ไพพรรณี
เมื่
อครั้
งเสด็
เยื
อนมณฑลพายั
พ เมื่
อปี
พ.ศ. ๒๔๖๙ ภายหลั
งเมื่
อสร้
างโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิ
มกรุ
ง ทรงตระหนั
กในความ
งดงามของการแสดงชุ
ดนี้
มี
พระราชประสงค์
ให้
พระราชชายาฯ จั
ดการแสดงชุ
ดนี้
เนื่
องในโอกาสเปิ
ดโรงมหรสพหลวง
จึ
งให้
เจ้
าพระยาวรพงษ์
พิ
พั
ฒน์
(ม.ร.ว.เย็
น อิ
ศรเสนา) ซึ่
งกำ
�กั
บกระทรวงวั
ง มี
พระราชโทรเลขไปถึ
งพระราชชายาฯ
ทรงโทรเลขตอบกลั
บลงมาว่
า คุ
ณครู
ลมุ
ล และคุ
ณครู
สงั
ด ยมคุ
ปต์
ได้
กลั
บลงมากรุ
งเทพฯแล้
ว ต่
อมาครู
ทั้
งสองท่
าน
จึ
งได้
ถ่
ายทอดท่
ารำ
�เพลงและการขั
บร้
องให้
กั
บละครหลวงได้
แสดงในโอกาสเปิ
ดโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิ
มกรุ
เมื่
อวั
นที่
๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ หนึ่
งในผู้
แสดงครั้
งแรกในกรุ
งเทพครั้
งนั้
น คื
อคุ
ณครู
จำ
�เรี
ยง พุ
ธประดั
บ ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขานาฏศิ
ลป์
ไทย (ละคร)
สถานภาพของฟ้
อนม่
านมุ้
ยเชี
ยงตาในปั
จจุ
บั
นมี
โอกาสในการนำ
�ออกแสดงน้
อยมาก แต่
ยั
งคงมี
การอนุ
รั
กษ์
ถ่
ายทอดไว้
ในสถาบั
นการศึ
กษา ในเครื
อของวิ
ทยาลั
ยนาฏศิ
ลป สถาบั
นบั
ณฑิ
ตพั
ฒนศิ
ลป์
กระทรวงวั
ฒนธรรม
โดยเฉพาะวิ
ทยาลั
ยนาฏศิ
ลปเชี
ยงใหม่
และวิ
ทยาลั
ยนาฏศิ
ลปกรุ
งเทพ สำ
�หรั
บเพลงม่
านมุ้
ยเชี
ยงตายั
งมี
บทบาทเป็
เพลงขั
บกล่
อมสำ
�หรั
บวงปี่
พาทย์
มอญในพื้
นที่
ลุ่
มนํ้
าเจ้
าพระยาที่
คลี่
คลายไปตามสถานการณ์
และมี
การนำ
�ท่
วงทำ
�นอง
และจั
งหวะดนตรี
ของม่
านมุ้
ยเชี
ยงตา มาใช้
ในการขั
บกล่
อมในวงดนตรี
พื้
นเมื
องล้
านนาและวงดนตรี
ร่
วมสมั
ฟ้
อนม่
านมุ้
ยเชี
ยงตา ได้
รั
บการขึ้
นทะเบี
ยนเป็
นมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรมของชาติ
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช
๒๕๕๕