Page 124 - dcp7

Basic HTML Version

113
จรั
ล กาญจนประดิ
ษฐ์
ได้
ศึ
กษาวิ
จั
ยเรื่
องตามรอยเพลงฟ้
อนเงี้
ยว สู่
ความสั
มพั
นธ์
ทางดนตรี
ชาติ
พั
นธุ์
ลุ่
มนํ้
าโขง
ได้
ระบุ
ไว้
ว่
า“ เพลงฟ้
อนเงี้
ยวที่
ใช้
ประกอบการแสดงชุ
ดฟ้
อนเงี้
ยวนี้
เป็
นทำ
�นองเก่
าชาวล้
านนารู้
จั
กทำ
�นองนี้
ว่
า เสเลเมา
มี
ทำ
�นองเพลงฟ้
อนเงี้
ยว (เสเลเมา) ดั
งนี้
----
---ม
---
-ซ-ล
---
-ร-ม
----
-ซ-ล
----
---ม
----
-ซ -ล
-ดํ
-ล
-ซ-ด
---ร
-ม-ซ
----
---ม
----
-ซ-ล
-ดํ
-ล
-ซ-ด
---ร
---ม
----
-รํ
-ดํ
---รํ
-ล-ดํ
-ลลล
-มํ
-รํ
-ดํ
-ล
-ซ-ล
----
---ล
---ดํ
---ล
-ดํ
--
-ดํ
-ล
-มมม
-ม-ล
สร้
อย
จากทำ
�นองเพลงจะพบว่
า เพลงฟ้
อนเงี้
ยวมี
ลั
กษณะทำ
�นองเพลงเป็
นแบบเพลงบั
งคั
บทาง กลุ่
มโน้
ตที่
ใช้
คื
กลุ่
มโน้
ต ๕ เสี
ยงหลั
ก(ดรม-ซล) มี
ทำ
�นองหลั
ก ๔ ประโยค รวมทำ
�นองสร้
อย ๑ ประโยคแต่
ละประโยคมี
การสร้
าง
ทำ
�นองที่
ยึ
ดลู
กตกสำ
�คั
ญ คื
อ เสี
ยงลาหรื
อโน้
ตขั้
นที่
๖ ของกลุ่
มเสี
ยงดรม-ซล
ในมิ
ติ
ทางดนตรี
ทำ
�นองเงี้
ยวเป็
นต้
นแบบผลงานการสร้
างสรรค์
มาสู่
เพลงรำ
�ฟ้
อนเงี้
ยวของครู
ลมุ
ล ยมะคุ
ปต์
และ
ต่
อมาเพลงฟ้
อนเงี้
ยวนี้
ได้
ถู
กนำ
�มาสร้
างสรรค์
ต่
อ โดยครู
บุ
ญยงค์
เกตุ
คง เป็
นเพลงเงี้
ยวรำ
�ลึ
กเถา ที่
เกิ
ดจากเพลงสำ
�เนี
ยง
ต่
างชาติ
ที่
ไพเราะที่
สุ
ดเพลงหนึ่
งของเพลงไทยเดิ
ม ในขณะเดี
ยวกั
นวงการเพลงไทยสากลก็
ได้
สร้
างสรรค์
เพลงกุ
หลาบ
เวี
ยงพิ
งค์
ที่
มี
แรงบั
นดาลใจมาจากทำ
�นองเพลงกลิ่
นอายของชาวล้
านนาและมี
เค้
าโครงทำ
�นองและลู
กตกใกล้
เคี
ยง
กั
บเพลงฟ้
อนเงี้
ยวเป็
นอย่
างมาก
ลั
กษณะท่
ารำ
�และรู
ปแบบการแสดง
ลี
ลาท่
ารำ
�ฟ้
อนเงี้
ยวเป็
นการรำ
�ตี
บทและมี
ท่
าการรำ
�เข้
ากั
บจั
งหวะ ระหว่
างที่
ดนตรี
บรรเลง มี
การแปรรู
ปขบวน
ด้
วยลี
ลาที่
สนุ
กสนานโดยจะมี
อุ
ปกรณ์
ถ้
าตามแบบฉบั
บกรมศิ
ลปากรผู้
แสดง ถื
อกิ่
งไม้
ในมื
อทั้
งสองข้
าง (นิ
ยมใช้
ใบมะยมมั
ดเป็
นช่
อ) ถ้
าแบบฉบั
บไทยใหญ่
ผู้
แสดง ไม่
ถื
อกิ่
งไม้
รำ
�ตามบทร้
อง นิ
ยมใช้
ผู้
แสดงเป็
นจำ
�นวนคู่
การแต่
งกาย
ผู้
แสดงแต่
งกายได้
๒ แบบ
๑. แต่
งกายแบบชาวเขา
ชาย - นุ่
งกางเกงขายาวสี
ดำ
� สวมเสื้
อแขนยาวคอกลมป้
ายหน้
าสี
ดำ
�ขลิ
บแดง ติ
ดกระดุ
มจี
โพกผ้
าใส่
เครื่
องประดั
บโลหะสี
เงิ
หญิ
ง - นุ่
งซิ่
นป้
ายสี
ดำ
� สวมเสื้
อ เครื่
องประดั
บและโพกผ้
า เช่
นเดี
ยวกั
บฝ่
ายชาย มื
อทั้
งสองข้
าง
ถื
อกำ
�ใบไม้