Page 45 - dcp6

Basic HTML Version

34
นิ
ทานศรี
ธนญชั
เรี
ยบเรี
ยงโดย รองศาสตราจารย์
กั
ญญรั
ตน์
เวชชศาสตร์
นิ
ทาน
ศรี
ธนญชั
เป็
นวรรณกรรมพื้
นบ้
านประเภทนิ
ทานมุ
ขตลก คนเจ้
าปั
ญญา (trickster tale) และเป็
วรรณกรรมมุ
ขปาฐะ มาก่
อนที่
จะมี
การสร้
างสรรค์
เป็
นวรรณกรรมลายลั
กษณ์
ในรู
ปแบบของร้
อยกรองที่
แต่
งด้
วย
คำ
�ประพั
นธ์
ประเภทกาพย์
และกลอนเสภา และรู
ปแบบที่
เป็
นร้
อยแก้
นิ
ทาน
ศรี
ธนญชั
มี
มาแต่
โบราณ ไม่
ปรากฏหลั
กฐานเกี่
ยวกั
บต้
นกำ
�เนิ
ด สมั
ยที่
แต่
ง และชื่
อผู้
แต่
ง วรรณกรรม
เรื่
องนี้
มี
ชื่
อเสี
ยงเป็
นที่
รู้
จั
กกั
นอย่
างแพร่
หลายมากที่
สุ
ดเรื
องหนึ่
งในท้
องถิ่
นต่
างๆ ของไทยตราบถึ
งปั
จจุ
บั
น โดยภาคกลาง
และภาคใต้
รู้
จั
กกั
นในชื่
“ศรี
ธนญชั
ย”
ส่
วนภาคเหนื
อและภาคตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อรู้
จั
กกั
นในชื่
“เชี
ยงเมี่
ยง”
แม้
นิ
ทานศรี
ธนญชั
ยจะมี
หลายสำ
�นวน แต่
ก็
มี
ลั
กษณะร่
วมกั
นในด้
านโครงเรื่
อง คื
อ เป็
นเรื่
องราวชี
วิ
ตของชายผู้
หนึ่
งซึ่
ใช้
ปฏิ
ภาณไหวพริ
บเอาตั
วรอดหรื
อแก้
ไขปั
ญหาต่
างๆ ให้
ผ่
านพ้
นไปได้
โดยลำ
�ดั
บตั้
งแต่
วั
ยเด็
กจนสิ้
นอายุ
ขั
ย เหตุ
การณ์
แต่
ละตอนมี
ลั
กษณะเป็
นเรื่
องสั้
นๆ ซึ่
งสามารถหยิ
บยกมาเล่
าแยกกั
นได้
วรรณกรรมเรื่
องนี้
แสดงให้
เห็
นภู
มิ
ปั
ญญาและพลั
งทางปั
ญญาในการสร้
างสรรค์
อั
นกอปรด้
วยศิ
ลปะของการ
ถ่
ายทอดเรื่
องราวที่
ทำ
�ให้
เกิ
ดอารมณ์
ขั
น โดยแสดงความเจ้
าปั
ญญาของตั
วเอกในลั
กษณะที่
คาดไม่
ถึ
งหรื
อพลิ
กความ
คาดหมายได้
อย่
างออกรส และแสดงพลั
งทางภาษาด้
วยการนำ
�เอาถ้
อยคำ
� สำ
�นวนมาเล่
นคำ
� เล่
นความหมายได้
ตาม
ความต้
องการ ซึ่
งนอกจากจะใช้
ความเถรตรงแล้
วยั
งใช้
กลวิ
ธี
อื่
นๆ อี
ก เช่
น การใช้
กลอุ
บาย การใช้
จิ
ตวิ
ทยา และการ
หาเหตุ
ผลโดยการเชื่
อมโยงสิ่
งต่
างๆ ที่
ปกติ
ไม่
ค่
อยมี
ใครนำ
�มาสั
มพั
นธ์
กั
น หรื
อโดยการมองสิ่
งหนึ่
งสิ่
งใดไปในทิ
ศทางที่
ตรงกั
นข้
ามกั
บคนอื่
นมาแก้
ไขปั
ญหาหรื
อเอาตั
วรอดได้
เมื่
อพิ
นิ
จนิ
ทาน
ศรี
ธนญชั
อย่
างลึ
กซึ้
ง จะเห็
นได้
ว่
าศิ
ลปะการสร้
างสรรค์
ดั
งกล่
าวทำ
�ให้
นิ
ทาน
ศรี
ธนญชั
มิ
ได้
มี
คุ
ณค่
าด้
านการให้
ความบั
นเทิ
งหรื
อสนุ
กสนานเพลิ
ดเพลิ
นเท่
านั้
น แต่
ยั
งมี
คุ
ณค่
าที่
ให้
สาระด้
านความคิ
ดด้
วย กล่
าวคื
ได้
แฝงแนวคิ
ดร่
วมหรื
อแนวคิ
ดที่
เป็
นสากลของมนุ
ษยชาติ
คื
อเรื่
องความสำ
�คั
ญของการใช้
ปั
ญญา ปฏิ
ภาณไหวพริ
เรื่
องความขั
ดแย้
งกั
บบุ
คคลและความขั
ดแย้
งกั
บค่
านิ
ยมของสั
งคม และ เรื่
อง
“เสี
ยหน้
า”
โดยได้
นำ
�สภาพแวดล้
อม
สั
งคมและวั
ฒนธรรมไทย มาสอดแทรกไว้
ในเนื
อหาได้
อย่
างกลมกลื
น นอกจากนี้
ยั
งทำ
�ให้
ประจั
กษ์
ถึ
งสั
จธรรมเกี่
ยวกั
ความไม่
เที่
ยงที่
ว่
าไม่
มี
ผู้
ใดจะครองความเป็
นผู้
ชนะได้
ตลอดกาล และทำ
�ให้
ได้
คิ
ดว่
าควรใช้
ปั
ญญาไปในทางสร้
างสรรค์
มิ
ใช่
ทำ
�ลาย