Page 98 - dcp4

Basic HTML Version

87
ความสามั
คคี
ให้
เกิ
ดกั
บคนในชุ
มชนได้
เป็
นอย่
างดี
ในอดี
ตการทำ
�มาลั
ยข้
าวตอก ชาวบ้
าน แต่
ละคุ้
มจะทำ
�การคั่
วข้
าว
เปลื
อกเหนี
ยวไว้
เสร็
จแล้
วผึ่
งให้
เย็
นและนำ
�มาร้
อยเป็
นสาย ตอนเย็
นหลั
งรั
บประทานอาหารเย็
นเสร็
จ เด็
กหนุ่
มสาวจะ
ออกไปช่
วยกั
นร้
อยมาลั
ยตามหมู่
บ้
าน และทำ
�หมุ
นเวี
ยนกั
นไปเรื่
อยๆ จนได้
เวลาอั
นสมควร (ประมาณ ๒๒.๐๐ น.) พอ
ถึ
งวั
นขึ้
น ๑๔ คํ่
า เดื
อน ๓ ก่
อนวั
นมาฆบู
ชา ๑ วั
น เวลาประมาณ ๑ ทุ่
มทางวั
ดจะตี
ระฆั
งบอกสั
ญญาณ ชาวบ้
านจะ
รวมกลุ่
มกั
นนำ
�พวงมาลั
ยมาถวายที่
วั
ด แล้
วนำ
�ไปแขวนไว้
ที่
ศาลาการเปรี
ยญ จากนั้
นจะทำ
�การไหว้
พระรั
บศี
ลฟั
งพระ
เจริ
ญพระพุ
ทธมนต์
จนถึ
งเวลาประมาณ ๔ ทุ่
มก็
จะแยกย้
ายกั
นกลั
บบ้
าน วั
นรุ่
งขึ้
นเป็
นวั
นขึ้
น ๑๕ คํ่
า เดื
อน ๓ จะมี
การทำ
�บุ
ญตั
กบาตรและทำ
�บุ
ญข้
าวจี่
ไปพร้
อมๆ กั
นถื
อเป็
นอั
นเสร็
จพิ
ธี
ในการทำ
�บุ
ญแห่
มาลั
ย ในปี
นั้
นๆ ปั
จจุ
บั
นการ
แห่
มาลั
ยได้
มี
การเปลี่
ยนแปลงไปจากเดิ
มโดยเมื่
อใกล้
ถึ
งเทศกาล เทศบาลตำ
�บลฟ้
าหยาดจะให้
งบประมาณสนั
บสนุ
แต่
ละชุ
มชนหรื
อหน่
วยงานที่
สนใจจะเข้
าร่
วมกิ
จกรรม ทั้
งชุ
มชนและหน่
วยงานดั
งกล่
าวจะร่
วมกั
นทำ
�มาลั
ยข้
าวตอก
โดยมี
วั
ตถุ
ประสงค์
หลั
กเพื่
อส่
งเข้
าประกวดมี
เงิ
นรางวั
ลเป็
นเดิ
มพั
น ส่
วนคนที่
ทำ
�มาลั
ยส่
วนใหญ่
จะเป็
น คนรุ
นกลาง
ที่
มี
ครอบครั
วแล้
ว หรื
อคนเฒ่
าคนแก่
ส่
วนคนหนุ
มสาวจะมี
ส่
วนร่
วมในรู
ปแบบของการฟ้
อนรำ
�ในขบวนแห่
เป็
นส่
วน
ใหญ่
ส่
วนรู
ปแบบของการถวายมาลั
ยก็
จะมี
เพี
ยงการจั
ดขบวนฟ้
อนรำ
�เข้
าร่
วมในขบวนแห่
เน้
นความสนุ
กสนานบั
นเทิ
มี
มหรสพสมโภช เพื่
อดึ
งดู
ดความสนใจของนั
กท่
องเที่
ยว เมื่
อถึ
งบริ
เวณวั
ดชาวบ้
านจะร่
วมทำ
�พิ
ธี
ถวายมาลั
ยเสร็
จแล้
แยกย้
ายกั
นกลั
บบ้
าน กิ
จกรรมในช่
วงเย็
นคนก็
เริ่
มน้
อยลง มี
เพี
ยงคนเฒ่
าคนแก่
บางส่
วนอยู
ฟั
งเทศน์
ในช่
วงเช้
าของ
วั
นรุ่
งขึ้
นก็
จะมี
เพี
ยงการทำ
�บุ
ญตั
กบาตรเท่
านั้
น ส่
วนการทำ
�บุ
ญข้
าวจี่
ที่
เคยทำ
�มาในอดี
ตได้
หายไปจากชุ
มชน
ประเพณี
การแห่
มาลั
ยข้
าวตอก ได้
มี
การเปลี่
ยนแปลงไป จากเดิ
มที่
เคยปฏิ
บั
ติ
มาตั้
งแต่
ในอดี
ต ได้
มี
การปรั
ประยุ
กต์
ทางวั
ฒนธรรม เพื่
อให้
สอดรั
บกั
บสถานการณ์
การณ์
ใหม่
ๆ ซึ่
งในการปรั
บประยุ
กต์
ทางวั
ฒนธรรมนั้
น คุ
ณค่
และความหมายของประเพณี
บางอย่
างได้
เริ่
ม สู
ญหายไป เช่
น ความเอื้
ออาทร การสร้
างจิ
ตสำ
�นึ
กร่
วมในการเป็
พวกเดี
ยวกั
นของคนในชุ
มชน กุ
ศโลบายในการสั่
งสอนคนในด้
านคุ
ณธรรม จริ
ยธรรม สายสั
มพั
นธ์
ระหว่
างบ้
าน
วั
ด โรงเรี
ยน รวมทั้
งอั
ตลั
กษณ์
ความเป็
นตั
วตนของบ้
านฟ้
าหยาด เริ
มหายไป ซึ่
งสิ่
งเหล่
านี้
จะส่
งผลกระทบต่
อการ
สื
บทอดประเพณี
อั
นดี
งามนี้
ให้
คงสื
บต่
อไปได้
เพราะหากชุ
มชนขาดความเป็
นอั
ตลั
กษณ์
หรื
อเอกลั
กษณ์
ทางวั
ฒนธรรม
แล้
ว ความมั่
นใจในตนเอง ความภาคภู
มิ
ใจและความรู้
สึ
กมี
ศั
กดิ์
ศรี
ในตนเองก็
จะลดน้
อยหดหายไป ดั
งนั้
น การที่
จะ
ธำ
�รงรั
กษาอั
ตลั
กษณ์
ความเป็
นชุ
มชนของบ้
านฟ้
าหยาดไว้
ได้
จะต้
องอาศั
ยการร่
วมมื
อของชุ
มชนในการสร้
างความ
ตระหนั
ก การยอมรั
บและเห็
นคุ
ณค่
าความสำ
�คั
ญของประเพณี
ดั้
งเดิ
มที่
แท้
จริ
ง มี
ความกล้
าที่
จะเผยแพร่
หรื
อนำ
�เสนอ
ต่
อสาธารณชนด้
วยความรู้
สึ
กมั่
นใจและภาคภู
มิ
ใจในวั
ฒนธรรมของตนแม้
จะมี
การเปลี่
ยนแปลง อย่
างไรก็
ตามสิ่
งที่
ควร
คำ
�นึ
งคื
อคุ
ณค่
าและความสำ
�คั
ญอั
นเป็
นวั
ตถุ
ประสงค์
หลั
กของการก่
อเกิ
ประเพณี
นี้
ทั้
งในด้
านคุ
ณธรรม จริ
ยธรรม ศิ
ลปกรรม ภู
มิ
ปั
ญญาท้
องถิ่
คุ
ณค่
าทางสั
งคมและ วิ
ถี
ของชุ
มชนปั
จจุ
บั
ประเพณี
แห่
มาลั
ยข้
าวตอกในเทศกาลวั
นมาฆบู
ชา จั
งหวั
ดยโสธร
ได้
รั
บการขึ้
นทะเบี
ยนเป็
นมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรมของชาติ
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๘
การแห่
มาลั
ยข้
าวตอก