Page 79 - dcp1

Basic HTML Version

70
รถม้
าชาวเสี
ยม
เรี
ยบเรี
ยงโดย รองศาสตราจารย์
ชั
ชชั
ย โกมารทั
ชาวเหนื
อนิ
ยมนั่
งรถม้
าจนเป็
นที่
ติ
ดปากของชาวต่
างชาติ
ว่
ารถม้
าชาวสยาม ต่
อมาสำ
�เนี
ยงที่
เรี
ยกรถม้
าชาวสยาม
เพี้
ยนไป เป็
นรถม้
าชาวเสี
ยม คำ
�ว่
า เสี
ยม หมายถึ
งสยามหรื
อไทยนั่
นเอง (ราชบั
ณฑิ
ตยสถาน, ๒๕๒๕)กี
ฬารถม้
าชาวเสี
ยม
เป็
นการเล่
นพื้
นเมื
องของชาวจั
งหวั
ดแพร่
ที่
ดั
ดแปลงมาจากการนั่
งรถม้
าชาวสยาม มี
เล่
นกั
นมานานแต่
สมั
ยเก่
า พบว่
ชาวเหนื
อนิ
ยมเล่
นกั
นมาตั้
งแต่
พ.ศ. ๒๔๕๘ แล้
ว โดยจั
ดเล่
นเป็
นการแข่
งขั
นกั
นในงานกรี
ฑานั
กเรี
ยนของจั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
ซึ่
งในครั้
งนั้
นเรี
ยกการเล่
นลั
กษณะคล้
ายคลึ
งกั
นนี้
ว่
าการแข่
งม้
าสมมติ
(สามั
คคยาจารย์
สมาคม,๒๔๕๘) โดยให้
ผู้
เล่
นคนหนึ่
เป็
นม้
า อี
กคนหนึ่
งเป็
นคนขี่
ขึ้
นขี่
วิ่
งแข่
งขั
นกั
น ต่
อมามี
การเพิ่
มเติ
มผู้
เล่
นเป็
น ๓ คนโดยให้
ผู้
เล่
น ๒ คน เป็
นรถม้
า อี
กคน
เป็
นคนขี่
ขึ้
นขี่
วิ่
งแข่
งขั
นกั
น ในปั
จจุ
บั
นยั
งคงมี
เล่
นกั
นอยู่
บ้
างตามท้
องถิ่
นชนบทของจั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
ลำ
�ปาง และแพร่
และ
เนื่
องจากเป็
นการเล่
นที
ทรงคุ
ณค่
าในหลากหลายด้
าน จึ
งสมควรต้
องมี
การฟื้
นฟู
พั
ฒนาการเล่
นนี้
ให้
คงอยู่
มี
ชี
วิ
ตชี
วาเป็
ประโยชน์
แก่
คนในรุ่
นปั
จจุ
บั
นและรุ่
นต่
อๆ ไปยิ่
งขึ้
รถม้
าชาวเสี
ยมสะท้
อนถึ
งวิ
ถี
ชี
วิ
ตจริ
งของชาวบ้
านในภาคเหนื
อไทย ที่
นิ
ยมใช้
รถม้
าเป็
นพาหนะในการเดิ
นทาง
โดยมี
วิ
ธี
เล่
นแบบใช้
คนต่
อตั
ววิ่
งแข่
งกั
น โดยให้
ผู้
เล่
น ๒ คนเป็
นรถม้
า อี
กคนเป็
นคนขี่
เป็
นการเล่
นที่
ไม่
ค่
อยพบเห็
นในประเทศอื่
นั
บเป็
นเอกลั
กษณ์
ไทยที่
สะท้
อนให้
เห็
นคุ
ณค่
าและการเรี
ยนรู้
วั
ฒนธรรมทางภาษาในภาคเหนื
อของไทย เช่
น คุ
ณค่
าและ
ความหมายของคำ
�ว่
าสยาม เพี้
ยนเป็
นเสี
ยม เป็
นต้
รถม้
าชาวเสี
ยมสามารถเล่
นได้
ทุ
กโอกาส เล่
นกั
นเฉพาะในหมู่
ผู้
ชายทั้
งเด็
กและผู้
ใหญ่
โดยแบ่
งผู
เล่
นเป็
นกลุ
ม ๆ ละ ๓ คน
ผู้
เล่
นทั้
ง ๓ คนในกลุ่
มควรเป็
นคนรู
ปร่
างใหญ่
๒ คน และรู
ปร่
างเล็
ก ๑ คน ทั่
วไปเล่
นกั
นบริ
เวณสนามกว้
าง เช่
น สนามใน
โรงเรี
ยน ลานวั
ด หรื
อชายทุ่
ง เป็
นต้
น โดยกำ
�หนดเส้
นเริ่
มและเส้
นชั
ยให้
มี
ระยะห่
างกั
นประมาณ๕๐ เมตร
วิ
ธี
เล่
ผู้
เล่
นแต่
ละกลุ่
มไปยื
นเตรี
ยมพร้
อมที่
หลั
งเส้
นเริ่
ม ให้
ผู้
เล่
น ๒ คนในกลุ่
มเป็
นรถม้
า และอี
กคนที่
มี
รู
ปร่
าง
เล็
กกว่
าเป็
นคนขี่
โดยให้
คนที่
เป็
นรถม้
าทั้
ง ๒ คน ยื
นเคี
ยงข้
างกั
น หั
นหน้
าไปยั
งเส้
นชั
ย ใช้
มื
อประสานไว้
ข้
างหลั
งของตน
ส่
วนผู้
เล่
นที่
เป็
นคนขี่
ยื
นอยู่
ข้
างหลั
งคนที่
เป็
นรถม้
า การเล่
นเริ่
มเล่
นโดยผู้
ตั
ดสิ
นจะให้
สั
ญญาณเริ่
มเล่
นเมื่
อได้
ยิ
นสั
ญญาณเริ่
มเล่
ผู้
ขี่
จะต้
องกระโดดเอาเท้
าเหยี
ยบไปในช่
องมื
อที่
ประสานกั
นไว้
ของคนที่
เป็
นรถม้
าทั้
งสองโดยใช้
เท้
าเหยี
ยบคนละข้
าง
และใช้
มื
อกอดคอคนที่
เป็
นรถม้
าไว้
คนละข้
าง กอดไม่
ให้
รถม้
าผละออกจากกั
น เมื่
อขึ้
นขี่
เรี
ยบร้
อยแล้
ว รถม้
าจึ
งออกวิ่
งไป
ยั
งเส้
นชั
ย พวกใดไปถึ
งเส้
นชั
ยก่
อนโดยคนขี่
ไม่
ตกระหว่
างทาง ถื
อว่
าเป็
นผู้
ชนะพวกใดคนขี่
ตกจากหลั
งม้
า หรื
อไปถึ
งเส้
นชั
ที
หลั
งถื
อว่
าเป็
นผู้
แพ้
กติ
กา
คื
อ ต้
องให้
คนขี่
ขึ้
นขี่
เรี
ยบร้
อยเสี
ยก่
อน รถม้
าจึ
งออกวิ่
งได้
และคนขี่
ตกจากหลั
งม้
าถื
อเป็
นแพ้