Page 65 - dcp1

Basic HTML Version

56
ตาเขย่
ง หรื
อ ตั้
งเต
เรี
ยบเรี
ยงโดย รองศาสตราจารย์
ชั
ชชั
ย โกมารทั
จุ
ดกำ
�เนิ
ดและประวั
ติ
ตาเขย่
ง หรื
อบางท้
องถิ่
น เรี
ยก ตั้
งเต หรื
อ ต้
องเต หรื
อจ้
องเต เป็
นกี
ฬาพื้
นเมื
องของภาคกลาง เล่
นกั
นทั่
วไปใน
แทบทุ
กจั
งหวั
ด เช่
น พระนครศรี
อยุ
ธยา สมุ
ทรสาคร นครปฐม ปทุ
มธานี
และนนทบุ
รี
เป็
นต้
น มี
การเล่
นที่
คล้
ายคลึ
งกั
ในภาคเหนื
อ เรี
ยกว่
า บ่
าบ้
าต๋
าแสง เขตปราบกิ
นเมื
อง อี
ทึ
บ หรื
ออี
ปิ๊
ก ก็
เรี
ยก (ชั
ชชั
ย โกมารทั
ต และคณะ, ๒๕๒๗)
ในภาคใต้
เรี
ยกลู
กฉุ
ด อี
ฉุ
ด หรื
อหมากฉุ
ดก็
เรี
ยก (สมบู
รณ์
ตะปิ
นา และคณะ, ๒๕๒๕) สั
นนิ
ษฐานว่
า ตาเขย่
งเป็
นการเล่
เลี
ยนแบบวิ
ถี
ชี
วิ
ตสมั
ยก่
อน ที่
สะท้
อนให้
เห็
นถึ
งความยากลำ
�บากของคนไทยที่
กว่
าจะได้
บ้
านมาหนึ่
งหลั
งต้
องใช้
ความมุ
งมั่
ความพยายามเป็
นอย่
างมาก ไม่
ปรากฏหลั
กฐานว่
าตาเขย่
งมี
การเล่
นกั
นมาตั้
งแต่
สมั
ยใด แต่
สั
นนิ
ษฐานว่
าตาเขย่
งเป็
กี
ฬาพื้
นเมื
องเก่
าแก่
ชนิ
ดหนึ่
งที่
มี
อายุ
การเล่
นมานานมากกว่
า ๑๒๐ ปี
พบว่
ามี
การเล่
นกั
นแล้
วในสมั
ยรั
ชกาลที่
๕ แห่
กรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
ก่
อน พ.ศ. ๒๔๔๕ (วรรณี
วิ
บู
ลสวั
สดิ์
แอนเดอสั
น, ๒๕๒๖) เด็
กๆ ในสมั
ยก่
อนนิ
ยมเล่
นเพื่
อความสนุ
กสนาน
เพลิ
ดเพลิ
นในเวลาว่
าง ปั
จจุ
บั
นยั
งมี
การเล่
นกี
ฬานี้
อยู่
โดยทั่
วไปและเนื่
องจากเป็
นการเล่
นที่
ทรงคุ
ณค่
าในหลากหลายด้
าน
จึ
งสมควรต้
องมี
การฟื้
นฟู
พั
ฒนาการเล่
นนี้
ให้
คงอยู่
มี
ชี
วิ
ตชี
วาเป็
นประโยชน์
แก่
คนในรุ่
นปั
จจุ
บั
นและรุ่
นต่
อๆ ไปยิ่
งขึ้
ลั
กษณะเฉพาะที่
แสดงอั
ตลั
กษณ์
๑. โครงสร้
างของการเล่
น เป็
นการสะท้
อนถึ
งวิ
ถี
ชี
วิ
ตจริ
งของชาวบ้
านไทย ที่
ให้
ค่
านิ
ยมและความสำ
�คั
ญกั
บความ
พยายามสร้
างเนื้
อสร้
างตั
วเพื่
อการมี
บ้
านเป็
นของตนเอง
๒. วิ
ธี
เล่
นแบบกระโดดไปในตารางที่
เขี
ยนขอบเขตลั
กษณะนี้
มี
ให้
เห็
นอยู่
ทั่
วไปในหลายประเทศ เรี
ยกในภาษาอั
งกฤษ
ว่
า Hopscotch แต่
การเล่
นที่
มี
การโยนเบี้
ยให้
ตรงเป้
าหมายตามช่
องที่
กำ
�หนด การกระโดดเขย่
งข้
ามช่
องที่
เป็
นอุ
ปสรรค์
อี
กทั้
งการได้
บ้
าน การให้
ยื
มบ้
าน เป็
นการเล่
นที่
ไม่
ค่
อยพบเห็
นในประเทศอื่
น นั
บเป็
นเอกลั
กษณ์
ไทย
๓. เป็
นการสะท้
อนให้
เห็
นคุ
ณค่
า ค่
านิ
ยม และการเรี
ยนรู้
วั
ฒนธรรมเกี่
ยวกั
บการมี
บ้
าน ความมี
นํ้
าใจของ
คนไทย เช่
น การให้
ยื
มบ้
าน และการให้
เช่
าบ้
าน ที่
แฝงอยู่
ในการเล่
วิ
ธี
การเล่
๑. โอกาสที่
เล่
เล่
นได้
ทุ
กโอกาส
๒. ผู้
เล่
มั
กเล่
นกั
นในหมู่
เด็
ก ๆ ทั้
งชายและหญิ
ง จำ
�นวนผู้
เล่
นควรมี
อย่
างน้
อย ๒ คน
๓. อุ
ปกรณ์
การเล่
เบี้
ยคนละ ๑ อั
น เบี้
ยจะมี
ลั
กษณะกลมแบนขนาดเส้
นผ่
าศู
นย์
กลางประมาณ ๑-๒ นิ้
ว อาจใช้
เศษกระเบื้
องแบน ๆ หรื
อเศษวั
สดุ
แบนและมี
นํ้
าหนั
กอื่
น ๆ แทนก็
ได้
๔. สถานที่
เล่
บริ
เวณลานบ้
าน ลานวั
ด หรื
อบริ
เวณที่
ว่
างทั่
วไป โดยเขี
ยนสนามเล่
นเป็
นตาราง รู
ปสี่
เหลี่
ยมผื
นผ้
กว้
างประมาณ ๖ ฟุ
ต และยาวประมาณ ๑๐-๑๒ ฟุ
ต ภายในแบ่
งออกเป็
น ๖ ช่
องเท่
า ๆ กั
น ช่
องที่
๔ และช่
องที่
๖ ให้
เขี
ยนเส้
นตั้
งฉากกั
บด้
านกว้
าง แบ่
งครึ่
งช่
องที่
๔ และช่
องที่
๖ ออกเป็
น ๒ ส่
วน คื
อ ส่
วนซ้
ายและส่
วนขวา ถั
ดจากช่
องที่
ให้
เขี
ยนเส้
นส่
วนโค้
งครอบต่
อทางด้
านกว้
างของเส้
นสุ
ดท้
ายของช่
องที่
๖ ไว้
เรี
ยกบริ
เวณส่
วนโค้
งนี้
ว่
า หั
วกระโหลก