Page 63 - dcp1

Basic HTML Version

54
ตะกร้
อลอดห่
วง
เรี
ยบเรี
ยงโดย รองศาสตราจารย์
ชั
ชชั
ย โกมารทั
ตะกร้
อลอดห่
วงเป็
นกี
ฬาพื้
นเมื
องของไทยที่
ปรากฏหลั
กฐานชั
ดเจนว่
าระหว่
างปี
พ.ศ.๒๔๗๐ - ๒๔๗๒ หลวงมงคลแมน
(สั
งข์
บู
รณะศิ
ริ
) ได้
ริ
เริ่
มคิ
ดการเล่
นตะกร้
อลอดห่
วงขึ้
นในกรุ
งเทพฯ โดยนำ
�วิ
ธี
การเล่
นตะกร้
อเตะวง ผสานกั
บท่
าเตะ
พลิ
กแพลงต่
างๆของการเล่
นตะกร้
อ และเพิ่
มการแขวนห่
วงที่
คิ
ดประดิ
ษฐ์
ขึ้
นห้
อยไว้
สู
งจากพื้
นตรงกลางสนามเล่
นให้
ผู้
เล่
เตะป้
อนลู
กตะกร้
อกั
นไปมา โดยมี
จุ
ดมุ่
งหมายให้
ลู
กตะกร้
อลอดเข้
าห่
วงที่
แขวนไว้
ต่
อมาจึ
งเริ่
มมี
การแข่
งขั
นตะกร้
อลอดห่
วง
เป็
นครั้
งแรกในปี
พ.ศ. ๒๔๗๔ โดยสมาคมกี
ฬาสยามเป็
นผู้
จั
ดขึ้
น และมี
การเล่
นแพร่
หลายไปยั
งจั
งหวั
ดอื่
นๆในภาคกลาง
ปั
จจุ
บั
นตะกร้
อลอดห่
วงมี
การเล่
นและแข่
งขั
นกั
นทั่
วประเทศ
ตะกร้
อลอดห่
วงจะเล่
นเป็
นที
มในสนามที่
เขี
ยนพื้
นเป็
นวงกลม โดยนำ
�ห่
วงสามเส้
า (สามด้
าน) แขวนห้
อยสู
งจากพื้
ไว้
กลางวง เพื่
อให้
ผู้
เล่
นในที
มเดี
ยวกั
นเตะป้
อนลู
กตะกร้
อโต้
กั
นไปมา หากลู
กตะกร้
อลอดเข้
าห่
วง ก็
จะได้
คะแนนตามความ
ง่
าย ยากของท่
าเตะ เมื่
อหมดเวลาหรื
อหมดโยนจะนำ
�คะแนนของทุ
กคนทุ
กท่
าในที
มที่
เตะลอดเข้
าห่
วงตามกติ
กาที่
กำ
�หนด
มารวมกั
นเป็
นคะแนนของที
มนั้
น ที
มที่
ทำ
�คะแนนได้
มากที่
สุ
ดจะเป็
นที
มชนะ ท่
าเตะที่
ใช้
ประกอบด้
วยท่
าที่
ใช้
เท้
า แข้
ง เข่
ศอก ไหล่
ศี
รษะ ทั้
งท่
าเตะด้
านหน้
า ด้
านข้
าง ด้
านหลั
ง มี
ทั้
งยื
นเตะ กระโดดเตะ และการเตะให้
ลอดบ่
วงมื
อไปลอดเข้
ห่
วงที่
แขวนไว้
ด้
วย เช่
นท่
าแข้
ง ท่
าส้
นไขว้
ท่
าขึ้
นม้
า ท่
าพั
บเพี
ยบ ท่
าขึ้
นม้
าห่
วงมื
อ ท่
าพั
บหลั
งตบบ่
วงมื
อซึ่
งเป็
นวิ
ธี
การเล่
ที่
วิ
จิ
ตร พิ
สดาร และสวยงาม
การเล่
นตะกร้
อลอดห่
วงช่
วยให้
ผู้
เล่
นได้
พั
ฒนาด้
านร่
างกาย ได้
แก่
ความแข็
งแรง ความอ่
อนตั
ว การทรงตั
ความแม่
นยำ
� ความมี
จั
งหวะในการเคลื่
อนไหวร่
างกาย และวิ
ธี
การเตะตะกร้
อด้
วยลี
ลาท่
าทางต่
างๆ ที่
สวยงามโดดเด่
นมี
ความหมายเป็
นเอกลั
กษณ์
ไทยแท้
ด้
านจิ
ตใจ ได้
แก่
ฝึ
กฝนจิ
ตใจให้
แจ่
มใส สนุ
กสนาน คลายความเครี
ยด รวมทั้
งพั
ฒนา
สติ
ปั
ญญาฝึ
กการคิ
ด การตั
ดสิ
นใจ การแก้
ปั
ญหาขณะเล่
นนอกจากนี้
ยั
งช่
วยสร้
างความสมั
ครสมานสามั
คคี
เคารพกฎกติ
กา
ตะกร้
อลอดห่
วง
ได้
รั
บการขึ้
นทะเบี
ยนเป็
นมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรมของชาติ
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๕