Page 80 - culture1

ชุมชนสำนักตักศิลาเขาอ้อ
ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จั งหวัดพั ทลุง
ชุมชนท่องเที่ยวเชิ งวัฒนธรรม
72
การแช่ว่านยาครั ้งหนึ่งๆ นั้น ขึ้นอยู่กับฤกษ์ยามและความอดทนของผู้แช่ว่านยา
ซึ่งในแต่ละครั้งนั้นต้องลง ไปนอนแช่ว่านยาอย่างน้ อยเป็นเวลา ๓ วัน อย่ างมากไม่เกิน
๗ วั น ซึ่งในตลอดชี วิตของคนคนหนึ่ งสามารถลงแช่ว่านยาได้ ไม่ เกิ น ๗ ครั้ ง
จากบันทึก มีแค่ท่านขุนพั นธรักษ์ ราชเดช เพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถแช่ว่านยา
ได้นานสุดครั้งละ ๗ วัน และแช่ได้ครบ ๗ ครั้ง
พิ ธี หุงข้าวเหนี ยวดำ หมายถึ ง
การนำ เครื่ องยาสมุ นไพร หรื อว่ าน
ชนิดต่างๆ ไม่ต่ำกว่า ๑๐๘ ชนิด นำมาผสม
แล้วต้ มเอาน้ำยามาใช้ หุงข้ าวเหนี ยวดำ
ประกอบพิธีในอุโบสถ เมื่ อก่อนประกอบ
พิธีที่ ถ้ำฉัตรทันต์ หม้ อและไม้ ฟืนทุ กอัน
ลงอักขระเลขยันต์กำกั บ พระอาจารย์
ผู้ประกอบพิธีจะเริ่มปลุ กเสกตั้งแต่จุดไฟ
จนข้ าวเหนียวในหม้ อสุ ก และจะนำ
ข้าวเหนี ยวที่สุกแล้วไปประกอบพิธีอีกครั้ง
ก่อนกินข้าวเหนียวดำ
พิ ธีกรรมหุงข้าวเหนียวดำและพิธี กินข้าวเหนียวดำ
ถ้าศิษย์คนใดไม่บริสุทธิ์ต้องทำพิธีสะเดาะเรี ยกว่า พิธีเกิดใหม่หรือพิ ธีบริสุทธิ์ตัว
เมื่อถึ งเวลากินข้ าวเหนียวดำ ต้องเปลี่ยนเครื่ องกายเป็ นผ้าขาวม้ าโจงกระเบน
ไม่ใส่ เสื้อ เข้ าไปกราบอาจารย์ ๓ ครั้ง แล้ วให้นั่ งชันเข่ าบนหนังสือ เท้ าทั้งสอง
เหยียบเหล็กกล้า หรือเหล็กเพชร ปิดศีรษะด้ วยหนังหมี มือทั้งสองวางบนหลังเท้าตัวเอง
อาจารย์ใช้มือซ้ายกดมือทั้ ง ๒ ไว้ พร้อมภาวนาพระคาถา ส่วนมือขวาปั้นข้าวเหนียวดำ
เป็นก้ อนๆ ป้อนให้ศิษย์ครั้งละก้อน แล้ วปล่อยมื อศิษย์ ที่กดไว้บนหลังเท้า มือทั้งสอง
ของศิษย์จะลู บขึ้นไปตั้ งแต่หลั งเท้ าจนทั่วตัวจดใบหน้า การลูบนี้เรียกว่า การปลุก
แล้วลูบลงเอามือทั้งสองข้างไปวางที่หลังเท้าดั งเดิม โดยจะกะประมาณว่ากินข้าวเหนียว