79
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
พระสุ
นทรโวหาร (สุ
นทรภู่
)
บุ
คคลสำ
�คั
ญของโลก พุ
ทธศั
กราช ๒๕๒๙
เกิ
ด
๒๖ มิ
ถุ
นายน พ.ศ. ๒๓๒๙
ถึ
งแก่
กรรม
พ.ศ. ๒๓๙๘
ยุ
คสมั
ย
รั
ตนโกสิ
นทร์
(รั
ชกาลที่
๑ - รั
ชกาลที่
๔)
ประวั
ติ
และการทำ
�งาน
พระสุ
นทรโวหาร นามเดิ
มว่
า ภู่
คนทั้
งหลายเรี
ยกกั
นว่
า
“สุ
นทรภู่
”
ประวั
ติ
ของสุ
นทรภู่
นั้
น ส่
วนมากได้
เรี
ยนรู้
จากคำ
�กลอนของสุ
นทรภู่
เอง ที่
ได้
แทรกประวั
ติ
ของตนเองไว้
บิ
ดามารดาของสุ
นทรภู่
จะมี
ชื่
อเสี
ยงเรี
ยงนามอย่
างไรไม่
ปรากฏ ทราบแต่
ว่
าบิ
ดาเป็
นชาวบ้
านกรํ่
า อำ
�เภอแกลง
จั
งหวั
ดระยอง ส่
วนมารดาสั
นนิ
ษฐานว่
ามี
เชื้
อสายมาจากกรุ
งศรี
อยุ
ธยา อพยพมาอยู่
กรุ
งธนบุ
รี
เมื่
อครั้
งกรุ
งศรี
อยุ
ธยา
แตก เป็
นนางนมพระธิ
ดาในกรมพระราชวั
งหลั
ง คื
อ พระองค์
เจ้
าจงกล ต่
อมาบิ
ดามารดาได้
แยกทางกั
น มารดาพาไป
ฝากเรี
ยนหนั
งสื
อกั
บพระวั
ดชี
ปะขาว (วั
ดศรี
สุ
ดารามในปั
จจุ
บั
น) เมื่
อพอรู้
หนั
งสื
อแตกฉานพอสมควรแล้
ว จึ
งพาไปถวาย
ตั
วในกรมพระราชวั
งหลั
งได้
ระยะหนึ่
ง ออกมาเป็
นเสมี
ยนนายระวาง กรมพระคลั
งสวน แต่
ก็
ทำ
�อยู่
ไม่
นาน กลั
บเข้
าไป
อยู่
ในพระราชวั
งหลั
งตามเดิ
ม ในช่
วงวั
ยหนุ่
ม สุ
นทรภู่
เริ่
มมี
ชื่
อเสี
ยงในฐานะเจ้
าบทเจ้
ากลอนแต่
งกลอนได้
ไพเราะ เขี
ยน
เพลงยาวเกี้
ยวผู้
หญิ
งที่
ตนหลงรั
ก ชื่
อจั
น จนต้
องโทษถู
กเวรจำ
�
สุ
นทรภู่
สร้
างผลงานจากการที่
ตนเองเดิ
นทางไปในสถานที่
หลายแห่
ง ทั้
งตามเสด็
จเจ้
านาย ไปโดยส่
วนตั
ว
และเหตุ
ผลอื่
นๆ นอกจากนี้
สุ
นทรภู่
เองเป็
นคนที่
ชอบดื่
มสุ
รา ต่
อมาในรั
ชกาลที่
๒ เข้
ารั
บราชการในตำ
�แหน่
งอาลั
กษณ์
เป็
นที่
โปรดปรานมาก ชี
วิ
ตของสุ
นทรภู่
ในช่
วงนี้
เจริ
ญรุ่
งเรื
องมาก ได้
รั
บใช้
ใกล้
ชิ
ดและตามเสด็
จเนื
องๆ จนได้
รั
บแต่
งตั้
ง
ให้
เป็
นกวี
ที่
ปรึ
กษา ได้
บรรดาศั
กดิ์
เป็
นขุ
นสุ
นทรโวหาร ในกรมพระอาลั
กษณ์
แต่
ด้
วยความเป็
นคนขี้
เมาและเจ้
าชู้
ทำ
�ให้
ชี
วิ
ตครอบครั
วต้
องแตกแยก และทำ
�ให้
ต้
องโทษติ
ดคุ
ก แต่
ก็
พ้
นโทษเพราะพระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธเลิ
ศหล้
านภาลั
ย ทรง
ติ
ดขั
ดเรื่
องกลอนจำ
�ต้
องให้
สุ
นทรภู่
มาช่
วยแต่
ง จึ
งพ้
นโทษ และกลั
บเข้
ารั
บราชการตามเดิ
ม จนกระทั่
งพระบาทสมเด็
จ
พระพุ
ทธเลิ
ศหล้
านภาลั
ย เสด็
จสวรรคต เมื่
อวั
นที่
๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๓๖๗
ครั้
นถึ
งรั
ชกาลที่
๓ สุ
นทรภู่
ลาออกจากราชการและไปบวช เพราะเกรงพระราชอาญา ด้
วยเหตุ
ที่
ทำ
�ให้
พระบาท
สมเด็
จพระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว เมื่
อครั้
งดำ
�รงพระอิ
สริ
ยยศเป็
น กรมหมื่
นเจษฎาบดิ
นทร์
ทรงขั
ดเคื
องพระราชหฤทั
ยใน
การแก้
กลอนหน้
าพระที่
นั่
ง ครั้
งรั
ชกาลที่
๒ หลายครั้
งหลายครา กล่
าวกั
นว่
า น่
าจะถู
กถอดจากขุ
นสุ
นทรโวหารด้
วย
เพราะคนทั้
งหลายเรี
ยกกั
นว่
า สุ
นทรภู่
ในช่
วงนี้
เองสุ
นทรภู่
ต้
องเดิ
นทางไปตามที่
ต่
างๆ ได้
แต่
งนิ
ราศไว้
หลายเรื่
อง เช่
น
นิ
ราศสุ
พรรณ นิ
ราศภู
เขาทอง นิ
ราศวั
ดเจ้
าฟ้
า ฯลฯ รวมทั้
งได้
แต่
งกลอนขายเลี้
ยงชี
พด้
วย
พระนิ
พนธ์
เรื่
อง ประวั
ติ
สุ
นทรภู่
ของสมเด็
จฯ กรมพระยาดำ
�รงราชานุ
ภาพ ทรงสั
นนิ
ษฐานว่
าสุ
นทรภู่
“เห็
นจะ
บวชในราวปี
จอ พ.ศ. ๒๓๖๙ เวลานั้
นอายุ
ได้
๔๑ ปี
แรกบวชอยู่
ที่
วั
ดราชบุ
รณะ อยู่
ได้
๓ พรรษา มี
อธิ
กรณ์
เกิ
ดขึ้
น”
กล่
าวคื
อ สุ
นทรภู่
คงจะเสพสุ
รา จึ
งถู
กขั
บไล่
จากวั
ดราชบุ
รณะ จากนั้
นสุ
นทรภู่
ก็
เริ่
มเดิ
นทางไปอยุ
ธยา แต่
ก็
กลั
บมา
กรุ
งเทพฯ อี
กและไปอยู่
ตามวั
ดหลายแห่
ง เช่
น วั
ดอรุ
ณฯ วั
ดเทพธิ
ดาราม วั
ดพระเชตุ
พนฯ วั
ดมหาธาตุ
ฯ
๒๔
สมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์