337
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
นายสมาน กาญจนะผลิ
น
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาศิ
ลปะการแสดง
(เพลงไทยสากล) พุ
ทธศั
กราช ๒๕๓๑
เกิ
ด
๑๐ มี
นาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ ที่
กรุ
งเทพมหานคร
ถึ
งแก่
กรรม
๒๕ มิ
ถุ
นายน พ.ศ. ๒๕๓๘
ยุ
คสมั
ย
รั
ตนโกสิ
นทร์
(รั
ชกาลที่
๖ - รั
ชกาลที่
๙)
ประวั
ติ
และการทำ
�งาน
นายสมาน กาญจนะผลิ
น เป็
นบุ
ตรของหมื่
นคนธรรพ์
ประสิ
ทธิ
สาร (แตะ
กาญจนะผลิ
น) และนางแหวว บิ
ดารั
บราชการเป็
นนั
กดนตรี
มี
วงดนตรี
ส่
วนตั
ว
อยู่
ในบ้
าน จึ
งได้
ฟั
งและสั
มผั
สกั
บดนตรี
ตั้
งแต่
แรกเกิ
ด มี
พี่
น้
องทั้
งหมด ๗ คน
มี
ชื่
อเสี
ยงทางดนตรี
ถึ
ง ๔ คน
เมื่
อวั
ยเด็
กเรี
ยนหนั
งสื
อที่
โรงเรี
ยนมณี
โสภา โรงเรี
ยนวั
ดบางโพธิ์
โรงเรี
ยนสุ
วรรณประสิ
ทธิ์
ตามลำ
�ดั
บ จบแล้
ว
ก็
เล่
นดนตรี
ไทยอยู่
ในวงของบิ
ดาจนอายุ
๑๙ ปี
พ.ศ. ๒๔๘๓ จึ
งได้
เข้
าเรี
ยนโรงเรี
ยนนาฏดุ
ริ
ยางค์
คื
อวิ
ทยาลั
ยนาฏศิ
ลป
ในปั
จจุ
บั
น เรี
ยนทั้
งดนตรี
ไทย และดนตรี
สากลและโน้
ตสากลจากบรมครู
ผู้
มี
ความสามารถหลายท่
าน เช่
น นายมนตรี
ตราโมท คุ
ณหญิ
งชิ้
น ศิ
ลปบรรเลง เรื
ออากาศเอก โองการ กลี
บชื่
น พระเจนดุ
ริ
ยางค์
(ปิ
ติ
วาทยะกร) ขุ
นสมานเสี
ยง
ประจั
กษ์
(เถาว์
สิ
นธุ
นาคร) นายเอื้
อ อั
มพผลิ
น เป็
นต้
น ต่
อมาเรี
ยนวิ
ธี
การแต่
งเพลง การแยกเสี
ยงประสาน จึ
งทำ
�ให้
นายสมาน กาญจนะผลิ
น มี
ความสามารถเหนื
อนั
กดนตรี
ธรรมดาและเป็
นนั
กแต่
งเพลงในที่
สุ
ด
หลั
งจากสงครามโลกครั้
งที่
๒ ผู้
คนนิ
ยมหาความบั
นเทิ
งยามคํ่
าคื
น นายสมาน กาญจนะผลิ
น ได้
ทำ
�งานเป็
น
นั
กดนตรี
ประจำ
�บาร์
ไนท์
คลั
บต่
างๆ ในตอนกลางคื
น ส่
วนกลางวั
นรั
บราชการในวงดุ
ริ
ยางค์
สากล กรมศิ
ลปากร ทำ
�ให้
มี
ความรู้
มากขึ้
น เล่
นเพลงได้
หลายแบบ เริ่
มแยกเสี
ยงประสาน แต่
งเพลงได้
บ้
าง
เมื่
อรั
บราชการได้
๑๐ ปี
จึ
งลาออกเมื่
อ พ.ศ. ๒๔๙๕ ไปประกอบอาชี
พนั
กดนตรี
เอกเทศ ตั้
งวงดนตรี
ของ
ตนเอง และยั
งมี
งานบรรเลงประจำ
�กั
บวงประสานมิ
ตร ได้
เพื่
อนมี
ฝี
มื
อดี
เป็
นจำ
�นวนมาก เช่
น ประสิ
ทธิ์
พยอมยงค์
สง่
า ทองธั
ช มาโนช ศณี
วิ
ภา เล็
ก ชอุ่
มงาม ฯลฯ ได้
นั
กร้
องเสี
ยงดี
หลายท่
านร้
องเพลงที่
แต่
งขึ้
นใหม่
เช่
น พิ
ทยา บุ
ญยรั
ตนพั
นธ์
เพ็
ญศรี
พุ่
มชู
ศรี
สุ
เทพ วงศ์
กำ
�แหง ชริ
นทร์
นั
นทนาคร เป็
นต้
น จนกระทั่
ง พ.ศ. ๒๕๐๓ วง
“ประสานมิ
ตร”
ได้
เลิ
ก
กิ
จการ จึ
งย้
ายไปเป็
นหั
วหน้
าวงดนตรี
ของธนาคารออมสิ
น ได้
พบกั
บ พิ
มพ์
ปฏิ
ภาณ พึ่
งธรรมจิ
ต นิ
ทั
ศน์
ละอองศรี
ฯลฯ
ทำ
�งานได้
๕ ปี
ย้
ายไปเป็
นหั
วหน้
าวงดนตรี
โรงงานยาสู
บ จนเกษี
ยณอายุ
ราชการใน พ.ศ. ๒๕๒๕
จากการสะสมความรู้
ความสามารถมาโดยตลอด ทำ
�ให้
ขึ้
นมาสู่
การเป็
นนั
กประพั
นธ์
เพลง โดยเฉพาะเพลงไทย
สากล ในแนวไทยเดิ
มที่
ท่
านถนั
ดมาก เป็
นผู้
มองโลกในแง่
ดี
มี
ความรั
บผิ
ดชอบต่
องานสู
ง ทั
นสมั
ย รู้
วิ
ธี
การประยุ
กต์
ใช้
ดนตรี
ประสมกั
นที่
เรี
ยกว่
า
“สั
งคี
ตประยุ
กต์
”
ขึ้
นเป็
นคนแรก มี
ความชำ
�นาญในการคั
ดเลื
อกนั
กร้
องจนได้
นั
กร้
องที่
มี
ชื่
อเสี
ยงมากมาย การประพั
นธ์
เพลงของท่
านนั้
นมี
หลายประเภท มี
จำ
�นวนมากกว่
า ๒,๐๐๐ เพลง
นายสมาน กาญจนะผลิ
น ถึ
งแก่
กรรมด้
วยโรคมะเร็
งปอด เมื
่
อวั
นที
่
๒๓ มิ
ถุ
นายน พ.ศ. ๒๕๓๘ สิ
ริ
อายุ
๗๔ ปี
๕๕
สมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์