247
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
ท่
านผู้
หญิ
งแผ้
ว สนิ
ทวงศ์
เสนี
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาศิ
ลปะการแสดง (นาฏศิ
ลป์
)
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๒๘
เกิ
ด
๒๕ ธั
นวาคม พ.ศ. ๒๔๔๖ ที่
จั
งหวั
ดฉะเชิ
งเทรา
ถึ
งแก่
อนิ
จกรรม
๒๓ กั
นยายน พ.ศ. ๒๕๔๓
ยุ
คสมั
ย
รั
ตนโกสิ
นทร์
(รั
ชกาลที่
๕ - รั
ชกาลที่
๙)
ประวั
ติ
และการทำ
�งาน
ท่
านผู้
หญิ
งแผ้
ว สนิ
ทวงศ์
เสนี
นามเดิ
มว่
า แผ้
ว สุ
ทธิ
บู
รณ์
เป็
นธิ
ดาของ
นายเฮง และนางสุ
ทธิ
สุ
ทธิ
บู
รณ์
ได้
เข้
าถวายตั
วใน
สมเด็
จพระเจ้
าบรมวงศ์
เธอ
เจ้
าฟ้
าอั
ษฎางค์
เดชาวุ
ธ กรมหลวงนครราชสี
มา
ในพระตำ
�หนั
กวั
งสวนกุ
หลาบตั้
งแต่
อายุ
๘ ปี
รั
บการฝึ
กหั
ดนาฏศิ
ลป์
กั
บเจ้
าจอมมารดาวาด (ท้
าววรจั
นทร์
) และเจ้
า
จอมมารดาเขี
ยน ในรั
ชกาลที่
๔ เจ้
าจอมมารดาทั
บทิ
ม ในรั
ชกาลที่
๕ หม่
อมแย้
มใน
สมเด็
จเจ้
าพระยาบรมมหาศรี
สุ
ริ
ยวงศ์
(ช่
วง บุ
นนาค) หม่
อมยิ
่
งในสมเด็
จพระบั
ณฑู
รฯ ต่
อมาเป็
นที
่
โปรดปรานของสมเด็
จ
พระเจ้
าบรมวงศ์
เธอ เจ้
าฟ้
าอั
ษฏางค์
เดชาวุ
ธ ทรงขอท่
านไปเป็
นชายา มี
นามว่
า
“หม่
อมแผ้
ว นครราชสี
มา”
พระบาท
สมเด็
จพระมงกุ
ฎเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว มี
พระมหากรุ
ณารั
บท่
านไว้
ในตำ
�แหน่
งสะใภ้
หลวง ครั้
นสมเด็
จพระเจ้
าบรมวงศ์
เธอ
เจ้
าฟ้
าอั
ษฎางค์
เดชาวุ
ธ ทิ
วงคต ด้
วยโรคพระวั
กกะอั
กเสบ ขณะนั้
นท่
านผู้
หญิ
งแผ้
ว มี
อายุ
ได้
๒๑ ปี
ไม่
มี
โอรส ธิ
ดา
ต่
อมาท่
านผู้
หญิ
งแผ้
วจึ
งสมรสใหม่
กั
บ
หม่
อมราชวงศ์
ตั
น สนิ
ทวงศ์
(พลตรี
หม่
อมสนิ
ทวงศ์
เสนี
) ได้
ติ
ดตามสามี
ซึ่
งรั
บราชการ
เป็
นทู
ตทหารไปประจำ
�ที่
ประเทศฝรั่
งเศส ประเทศอั
งกฤษ ประเทศอิ
ตาลี
จนได้
รั
บการแต่
งตั้
งเป็
นเอกอั
ครราชทู
ตไทย
ประจำ
�ประเทศโปรตุ
เกส เมื
่
อท่
านไปประเทศไหนก็
สนใจศึ
กษานาฏศิ
ลป์
ของชาติ
นั้
น และได้
นำ
�มาประดิ
ษฐ์
ท่
ารำ
�พั
ฒนา
เป็
นท่
านาฏศิ
ลป์
ไทยในเวลาต่
อมา ด้
วยความที่
เป็
นผู้
เชี่
ยวชาญด้
านนาฏศิ
ลป์
ไทย นายธนิ
ต อยู่
โพธิ์
หั
วหน้
ากองการสั
งคี
ต
กรมศิ
ลปากร ขณะนั้
น ได้
เรี
ยนเชิ
ญให้
ท่
านผู้
หญิ
งแผ้
ว มาช่
วยปรั
บปรุ
งฟื้
นฟู
และวางรากฐานด้
านการละคร การรำ
� ให้
กั
บกรมศิ
ลปากร นอกจากท่
านจะเชี่
ยวชาญในตำ
�ราฟ้
อนรำ
�อั
นสื
บเนื่
องมาแต่
สมั
ยโบราณแล้
ว ยั
งเชี่
ยวชาญในการค้
นคิ
ด
ประดิ
ษฐ์
ท่
ารำ
�ให้
เหมาะสมกั
บกาลสมั
ย เป็
นผู้
ฝึ
กสอน และอำ
�นวยการฝึ
กซ้
อมการแสดงโขน ละคร ฟ้
อนรำ
� ต่
างๆ เป็
น
จำ
�นวนมาก เมื่
อครั้
งที่
รั
ฐบาลให้
กรมศิ
ลปากรจั
ดนาฏศิ
ลป์
ไปแสดง ณ ประเทศสาธารณรั
ฐประชาชนจี
น เป็
นครั้
งแรก
ท่
านเป็
นผู้
อำ
�นวยการจั
ดทำ
�บท คั
ดเลื
อกผู้
แสดง อำ
�นวยการฝึ
กซ้
อม ผลจากการแสดงในครั้
งนั้
นทำ
�ให้
หนั
งสื
อพิ
มพ์
จี
นทุ
ก
ฉบั
บ กล่
าวยกย่
องชมเชยท่
านผู้
หญิ
งแผ้
วมาตลอดอย่
างสื
บเนื่
อง ด้
วยการค้
นคิ
ดระบำ
�
“จี
นไทยไมตรี
”
สร้
างความรู้
สึ
ก
ในมิ
ตรภาพระหว่
างไทย - จี
น อย่
างดี
ยิ่
ง
จากผลงานและความรู้
ความสามารถทำ
�ให้
ท่
านได้
รั
บพระราชทานเหรี
ยญดุ
ษฎี
มาลาเข็
มศิ
ลปวิ
ทยาและเครื่
อง
ราชอิ
สริ
ยาภรณ์
เมื่
อ พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้
รั
บบรรดาศั
กดิ์
เป็
นคุ
ณหญิ
ง ต่
อมาได้
รั
บเครื่
องราชอิ
สริ
ยาภรณ์
ทุ
ติ
ยจุ
ลจอมเกล้
า
วิ
เศษ เมื่
อ พ.ศ. ๒๕๒๘ มี
บรรดาศั
กดิ์
เป็
นท่
านผู้
หญิ
ง และปริ
ญญาดุ
ษฎี
บั
ณฑิ
ตกิ
ตติ
มศั
กดิ์
เป็
นเกี
ยรติ
ยศมาโดยลำ
�ดั
บ
ท่
านผู้
หญิ
งแผ้
ว ทำ
�งานในกรมศิ
ลปากรในฐานะผู้
เชี่
ยวชาญนาฏศิ
ลป์
ไทยตลอดมาท่
านถึ
งแก่
อนิ
จกรรม เมื่
อวั
นที่
๒๓ กั
นยายน พ.ศ. ๒๕๔๓ รวมอายุ
ได้
๙๘ ปี
๑๐
สมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์